พิษณุโลก - ตำรวจทางหลวงเมืองสองแควเผยนาทีช่วยอาจารย์โรงเรียนดัง กทม.โดนแจ้งจับโกงเงินค่าทัวร์ญี่ปุ่น จนคิดไม่ตก ขับเก๋งออกจากเมืองกรุงแบบไร้จุดหมาย มาถึงพิษณุโลกแวะสักการะ “พระพุทธชินราช” ก่อนซื้อเตาอั้งโล่-ถ่านเตรียมรมควันฆ่าตัวตาย
กรณี พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 (พิษณุโลก) กก.5 บก.ทล. นำกำลังตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เฝ้าระวังขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามข้อสั่งการจาก พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล. คืนที่ผ่านมา (14 มี.ค. 66)
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถตระเวนตรวจตามทาง ทล.126 กระทั่งไปถึงแยกหนองอ้อ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบรถต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ จึงขอตรวจสอบ พบนายชลัท (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เป็นคนขับ
ผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ท่าทีนายชลัทค่อนข้างผิดปกติ และบริเวณเบาะนั่งผู้โดยสารฝั่งซ้ายพบเตาอั้งโล่พร้อมถ่านฟืน และจดหมายสั่งเสียฉบับหนึ่งเขียนด้วยลายมือ เจ้าหน้าที่จึงรีบเชิญตัวนายชลัทมาพักที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงสีหราชเดโชชัยเพื่อพูดคุยสอบถาม
เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวนักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. เกือบ 40 คน ที่เดือดร้อนเพราะถูกนายชลัท ซึ่งเป็นอาจารย์ของโรงเรียน โกงค่าทัวร์มูลค่าหลายล้านบาท โดยนายชลัทแจ้งว่าที่บ้านทำธุรกิจทัวร์และอาสาเข้ามาดูแลการเดินทางไปญี่ปุ่นของคณะนักเรียน ผู้ปกครอง และอาจารย์ของโรงเรียน พร้อมเก็บค่าเดินทางคนละประมาณ 5 หมื่นบาท
ก่อนการเดินทาง นายชลัทก็แจ้งกับลูกทัวร์ว่าเตรียมตั๋วเครื่องบินต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อถึงกำหนดวันเดินทาง ก็พบว่านายชลัทหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อสอบถามทางเคาน์เตอร์สายการบินก็พบว่าไฟลต์บินตามกำหนดเดินทางนั้นเต็มแล้ว แต่ไม่มีรายชื่อผู้โดยสารจากโรงเรียนดังกล่าวแม้แต่คนเดียว จนกระทั่งมีการเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท
ส่วนนายชลัทนั้นก็หายตัวไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาพบตัวก่อนที่จะรมควันฆ่าตัวตาย และเข้ายับยั้งได้ทัน เบื้องต้นทราบว่า นายชลัทกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้หมุนเงินซื้อทัวร์ญี่ปุ่นได้ไม่ทัน จึงมีความคิดที่จะมาฆ่าตัวตายจริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับตัวนายชลัทไปดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 (พิษณุโลก) กก.5 บก.ทล เปิดเผยว่า ระหว่างพูดคุยกับนายชลัทยังมีสีหน้าท่าทีกังวลใจและเครียดกับปัญหาชีวิตที่ประสบอยู่ ก่อนจะเล่าระบายความรู้สึกว่าได้ขับรถไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมายปลายทางเพราะหาทางออกชีวิตไม่ได้ จากนั้นได้โทร.ติดต่อไปยังเพื่อนที่รู้จักเพื่อที่จะขอซื้อปืนต่อมาจบชีวิตตัวเอง แต่เพื่อนไม่ขายให้และให้สติว่าให้สู้ต่อไป
กระทั่งขับมาถึง จ.พิษณุโลก ช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวานนี้ (14 มี.ค.) ก็ได้แวะกราบพระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ เพื่อให้จิตใจสงบลง ก่อนจะตัดสินใจไปตระเวนซื้อเตาอั้งโล่พร้อมถ่านฟืนหวังจะมารมควันฆ่าตัวตายภายในรถเก๋ง แต่สุดท้ายขับรถวนไปมา กระทั่งไปเจอกับตำรวจทางหลวง ซึ่งเรียกตรวจจนพบของต่างๆ ในรถเก๋ง พร้อมเชิญตัวมาพูดจาเพื่อเกลี้ยกล่อมจนกลับใจไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายแล้ว
ส่วนเรื่องคดีอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจต่อไป