ลพบุรี - มือปืนขี่จักรยานประกบยิงหนุ่มใหญ่พนักงานช่างไฟฟ้าแม็คโคร สาขา ลพบุรี ยิงด้วยอาวุธขนาด 9 มม.เข้านับสิบ บริเวณหมู่ 5 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ดับคารถกระบะ เผยยังไม่ทราบปมสังหาร
ค่ำวานนี้ (13 มี.ค.) ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทองกร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่หมู่ 5 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รักษ์ศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองลพบุรี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวร รพ.อานันทมหิดล และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี
โดยที่เกิดเหตุอยู่ในซอยข้างห้างโลตัส ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 150 เมตร ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์ บร 1695 ลพบุรี หลังคาตูทึบ จอดอยู่หันหน้าเข้าไปในซอย ซึ่งซอยดังกล่าวเป็นถนนแคบและมืด สภาพรถกระจกด้านข้างขวาแตกละเอียด ภายในพบคนขับนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ ทราบต่อมาคือ นายอัครเดช หรือเอก ศรีสอาด อายุ 52 ปี 150/21 หมู่บ้านเพชรโสธร ม.4 ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี นอนคว่ำหน้าอยู่ที่เบาะรถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยรอบ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกเกลื่อนตั้งแต่ท้ายรถ จนถึงประตูด้านขวาตรงคนขับ นับได้ 14 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายสมมารถ ซึ่งอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ ได้ยินเสียงปืน 3 นัด ต่อจากนั้นได้ยินเสียงปืนรัวนับไม่ถ้วน แต่ตนไม่เห็นเหตุการณ์เพราะอยู่ในบ้าน
จากการสอบถามนางแก้วตา ศรีสะอาด อายุ 52 ปี ภรรยา ทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นช่างไฟฟ้าห้างแม็คโคร สาขาลพบุรี หลังจากเลิกงาน มารับงานส่งของ บริษัทขนส่งเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ปกติสามีไม่เคยมีเรื่องกับผู้ใด ก่อนเกิดเหตุตนได้ทำอาหารรอกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แต่ได้โทร.บอกว่าจะขอกินข้าวก่อน เพราะพรุ่งนี้จะไปเจาะเลือด สามีบอกให้กินก่อน จากนั้นไม่ได้โทร.หากันอีก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกจึงทราบเรื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวรได้ทำการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบว่า ผู้ตายถูกยิงเข้าตามจุดต่างๆ ของร่างกายไม่ต่ำกว่า 7 นัด โดยเฉพาะที่ราวนมซ้ายมีบาดแผลถูกยิง ถึง 3 จุด คาดว่ามือปืนน่าจะมีการยิงซ้ำ ส่วนสาเหตุจะทำการสอบสวน และสอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงว่าจักรยานยนต์ที่ประกบยิงวิ่งสวนออกไปทางปากซอย และมุ่งไปตามเส้นทาง บ้านโคกตูม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแกะรอยตามกล้องวงจรปิดต่อไป