ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานสหกรณ์เดินรถพัทยา วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหารถแท็กซี่เอกชนแย่งพื้นที่รับส่งผู้โดยสาร ชี้วันนี้เมืองพัทยามีผู้ให้บริการมากเกินจำเป็นจนสร้างปัญหาจราจร ควบคุมพฤติกรรมยากทำถูกชาวบ้านร้องเรียน
ปัญหารถโดยสารสาธารณะที่มีจำนวนมากในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ในวันนี้แทบจะเรียกได้ว่ามีมากเกินความจำเป็น จนส่งผลต่อวินัยการขับขี่ของผู้ให้บริการที่ยากเกินควบคุม ไม่ว่าจะเป็นการก่อเหตุไล่นักท่องเที่ยวลงกลางทาง การจอดรถซ้อนคัน การจอดรถในที่ห้ามจอด การกลับรถในที่คับขัน หรือแม้แต่การไม่วิ่งตามเส้นทางสัมปทาน และจอดในที่ห้ามจอดเหล่านี้ถือเป็นปัญหาที่คาราคาซังที่มีมาอย่างยาวนาน
กระทั่งเมื่อครั้งที่ คสช.เข้าบริหารประเทศ และได้กำหนดนโยบายจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวรวมทั้งแก้ไขปัญหาการรุกล้ำ บุกรุกที่สาธารณะ โดยเฉพาะในเขตเมืองพัทยา ที่ได้มีคำสั่งให้จัดระบบทางทางบกทางน้ำ และทวงคืนพื้นที่สาธารณะที่ใช้จอดเรือบริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย และแก้ไขการสัญจรทางบก ด้วยการจัดระเบียบการเดินรถโดยสารสาธารณะจนทำการจัดการปัญหาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.2559 หรือกว่า 7 ปีที่ผ่านมา
โดย คสช.ได้กำหนดให้รถโดยสารสองแถวในเมืองพัทยาต้องวิ่งตามเส้นทางสัมปทานที่สหกรณ์ขออนุญาตไว้ต่อกรมขนส่งทางบก และจะต้องเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนดคือ 10 บาทต่อคนต่อเที่ยว และหากพบว่ามีการวิ่งรถออกนอกเส้นทาง หรือสร้างปัญหาการรับส่งนอกป้ายหรือจอดในที่ห้าม รวมทั้งประพฤติตนไม่เหมาะสม เช่น การแต่งกาย หรือกิริยาที่ไม่สุภาพ จะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด
แต่เมื่อ คสช.คืนอำนาจให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ปัญหาเดิมๆ เกี่ยวกับผู้ให้บริการรถโดยสารสองแถวในเมืองพัทยา ก็กลับมาอีกครั้ง จนทำให้เสียงจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ร้องเรียนผ่านสื่อ และเมืองพัทยา เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเกรงว่าในช่วงที่ประเทศไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ปัญหาเริ่มกลับมาใหม่และไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างพัทยาได้
เพราะแค่เพียงรถที่ขึ้นสังกัดสหกรณ์สองแถวเมืองพัทยา มีจำนวนมากกว่า 700 คันแล้ว ไม่นับรวมรถแท็กซี่จากสหกรณ์เดินรถหลายแห่งที่มีมากกว่า 500 คัน อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ อีกไม่น้อยกว่า 100 คัน จึงถือเป็นปัญหาสำคัญของการจราจรในเมืองพัทยาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายธวัช เผือกบุนนาค ประธานสหกรณ์เดินรถพัทยา บอกว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทได้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัด แต่โควิด-19 ที่ระบาดนานกว่า 3 ปี ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดรายได้อย่างหนัก ดังนั้น เมื่อเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ผู้ประกอบการที่ยังคงมีรถอยู่ก็พากันออกมาให้บริการแม้จะยังไม่เต็มรูปแบบ จึงมีผู้วิ่งรถบริการเพียง 500 จากกว่า 700 คัน
“เมื่อรถไม่ได้ออกมาวิ่งทั้งหมดตามเส้นทางสัมปทานจึงเกิดปัญหารถมีไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวจึงใช้วิธีเช่าเหมาคันเพื่อให้ผู้บริการพาไปส่งตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทั้งในเขตเมืองพัทยาและพื้นที่รอบนอก แต่ยืนยันว่าปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นนั้นนอกจากจะมีรถในส่วนของสหกรณ์แล้ว ยังมาจากจำนวนรถแท็กซี่เอกชนค่ายอื่นๆ ที่มีทั้งได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาให้บริการด้วย”
โดยรถแท็กซี่เอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการตามกฎหมายได้เข้ามาแย่งอาชีพผู้ประกอบการรถสองแถวในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นอย่างมาก หลังพบว่าปัจจุบันรถเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000 คัน
“กรณีนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เมืองพัทยา กรมการขนส่งทางบก หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเข้มงวดกวดขันดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เพราะนอกจากจะเป็นภาระปัญหาด้านการจราจรแล้ว ยังเป็นการประกอบการที่ไม่ชอบอีกด้วย” ประธานสหกรณ์เดินรถพัทยา กล่าว