สระแก้ว - กระหึ่มโลกออนไลน์คลิป “ครูยืม 3,000 แต่แม่หนูหนีทัน” ทำชาวเน็ตวิจารณ์แซด ฉายาครูสล็อต เพราะติดพนันออนไลน์ พิกัดโรงเรียนประถมใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ชาวบ้านวอนหยุดพฤติกรรมเหตุสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ภารโรง
จากกรณีที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้นำคลิปภาพเด็กนักเรียนชั้น ป.3 ที่พากันออกมาแฉแหลกพฤติกรรมครูท่านหนึ่งในโรงเรียนที่มักบุกไปยืมเงินผู้ปกครองถึงบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ยามค่ำคืน จนเด็กๆ พากันตั้งฉายาให้ว่า “คุณครูสล็อต ” โดยเด็กๆ เหล่านี้เชื่อว่าสาเหตุที่คุณครูต้องบุกยืมเงินผู้ปกครองไปทั่วเพราะติดพนันออนไลน์
และเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่และแชร์ต่อเป็นวงกว้าง ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ครูท่านนี้น่าจะติดไฮโล แต่ทางเพจได้ชี้แจ้งว่าครูไม่ได้ติดไฮโล แต่ครูท่านนี้ติดพนันออนไลน์ และน่าจะมัวแต่ปั่นสล็อต จนเป็นที่มาของฉายาที่นักเรียนตั้งให้
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า เด็กๆ กลุ่มนี้เป็นนักเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และครูที่ถูกระบุในคลิปคือครูของโรงเรียนดังกล่าวอีกด้วย โดยนักเรียนรายหนึ่งเล่าว่า พฤติกรรมของครูท่านนี้มักจะเที่ยวยืมเงินจากผู้ปกครองนักเรียน และมักจะบุกไปหาถึงบ้านไม่เว้นแม่แต่ยามค่ำคืน
ส่วนนักเรียนอีกรายบอกว่าครูได้ไปหาผู้ปกครองถึงที่บ้านและขอยืมเงินของแม่ประมาณ 3,000-5,000 บาท แต่โชคดีที่แม่ตนเองหนีทัน
จากการสอบถาม นางรวง ครูของโรงเรียนแห่งนี้ได้รับข้อมูลว่า คุณครูที่เด็กๆ ระบุในคลิปมีชื่อเล่นว่า “ครูยู” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยยืมเงินของตนเองและเคยบุกไปยืมถึงในมุ้งขณะนอนพักอยู่ภายในบ้าน
เช่นเดียวกับ นายคมเพชร ศรีจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย (พรส.) ต.ทัพไทย บอกว่า ตนเองเคยถูกครูรายดังกล่าวยืมเงิน จำนวน 500 บาท และจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้เงินคืน และอยากขอวอนให้ “ครูยู” หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพราะได้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปโรงเรียนที่เกิดเหตุได้พบกับนักการภารโรง วัย 54 ปี กล่าวว่า ครูรายนี้เคยขอยืมเงินจากตน จำนวน 50,000 บาท ซึ่งตนเองและภรรยาได้ปฏิเสธไปเพราะไม่มีเงินให้ยืม ที่สำคัญยังเป็นแค่นักการภารโรง
“พอบอกว่าไม่มีเงิน ครูยู ยังถามอีกว่ามีทองไหม จะยืมเอาไปจำนำ พอบอกไม่มีก็แสดงอาการไม่พอใจ และหนีกลับบ้านไป” นักการภารโรง กล่าว
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพฤติกรรมของครูรายรายนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ปกครองนักเรียนใน 2 ตำบล คือ ต.ทัพไทย และ ต.ทัพเสด็จ และหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดคือ บ้านโคกระกา บ้านโคกปราสาท บ้านทัพทิมสยาม03 บ้านทัพไทย และบ้านทัพเสรี
โดยเชื่อว่าหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปหน่วยงานต้นสังกัดจะได้ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของครูรายดังกล่าวอย่างจริงจัง