กาญจนบุรี - ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง บุกไร่อ้อยเมืองกาญจน์ ช่วยเหลือแรงงานพม่า 14 ราย หลังถูกนายจ้างหลอกมาบังคับใช้แรงงาน อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์
ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายมานะ สิมมา ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เขต 3 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง และนายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี
พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรี และแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี เข้าช่วยเหลือผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงาน และอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์
กรณีแรงงานสัญชาติพม่า จำนวน 14 ราย แจ้งขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกนายหน้าหลอกจ้างงานไม่เป็นไปตามที่ตกลง นายจ้างบังคับให้ทำงานโดยยึดเอกสารประจำตัว ผูกภาระหนี้สิน ไม่มีการจ่ายค่าตอบแทน ให้ทำงานเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด ทำร้ายร่างกายและจิตใจข่มขู่โดยใช้อาวุธปืน
นอกจากนี้ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านพักนายจ้าง ม.5 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปรากฏว่านายจ้างได้หลบหนีไปแล้ว แต่นายจ้างคนดังกล่าวได้ประสานมายังชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองในภายหลังว่า จะขอเข้ามอบตัวต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าของไร่อ้อยรายดังกล่าวยังเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ มีพรรคพวกเป็นจำนวนมาก และมีพฤติการณ์นำบุคคลอื่นมาข่มขู่แรงงานให้กลัว และเพื่อบังคับให้ทำงาน กรณีเช่นนี้หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน แรงงานอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต
นายจ้างอาจเข้าข่ายการกระทำความผิด ดังนี้ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง มาตรา 309 และ 310 ประมวลกฎหมายอาญา การค้ามนุษย์ ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ตามมาตรา 6/1 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนายจ้างหรือบุคคลอื่นที่ร่วมขบวนการการกระทำผิดนี้ด้วย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ พ.ศ.2565
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และกรณีนี้นอกจากช่วยเหลือแรงงานที่เป็นเหยื่อจากแรงงานบังคับและการค้ามนุษย์แล้ว ยังถือว่าได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามหลักมนุษยธรรมอีกด้วย