xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนใจอีก! หลานสาววัย 15 ถูกลุงเขยชั่วข่มขืนนาน 3 ปีจนตั้งท้อง ขณะญาติโวย จนท.ไม่ต้องมายุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ รุดตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีคนร้องเรียนกรณีหลานสาววัย 15 ถูกลุงเขยข่มขืนนาน 3 ปีแต่เรื่องแดงเพราะตั้งท้อง ญาติพาไปทำแท้งกลัวเลี้ยงลูกไม่ได้ ล่าสุดลุงเขยหื่นเผ่นหนีแล้ว ขณะญาติโวยสื่อและ จนท.ไม่ต้องยุ่ง อ้างเป็นเรื่องในครอบครัวจัดการเอง

วันนี้ (1 มี.ค.) นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่ามีเยาวชนหญิงวัย 15 ปี อาศัยในชุมชนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ถูกลุงเขยอายุประมาณ 60 ปี ข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่เรียนชั้น ป.6 จนอายุ 15 ปีนานกว่า 3 ปี กระทั่งเรื่องแดงเพราะเด็กตั้งท้องได้เกือบ 2 เดือน แล้วลุงเขยที่ก่อเหตุก็เผ่นหนีหายออกไปจากบ้าน ส่วนญาติก็พาเด็กไปทำแท้ง แต่ไม่มีใครไปแจ้งความเอาผิดลุงเขยที่ก่อเหตุ


จากการลงพื้นที่สอบถาม น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ว่าได้ถูกลุงกระทำชำเราจริงตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.6 จนถึงอายุ 15 ปี โดยก่อเหตุทั้งในห้องน้ำภายในบ้านที่พักอาศัยอยู่ และบางครั้งก็ก่อเหตุในห้องน้ำร้างใกล้กับร้านที่ขายไก่ย่าง แต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเพราะกลัว กระทั่งตนเองเริ่มมีอาการผิดปกติลุงเขยซื้อที่ตรวจครรภ์มาให้ตรวจ พบว่าตั้งท้องได้ประมาณ 7 สัปดาห์กว่า พอลุงเขยรู้ว่าตนตั้งท้องก็หนีหายไป ตนจึงเล่าให้คนในบ้านฟัง เขาพาไปทำแท้ง ตอนนี้กลัวว่าลุงจะกลับมาแล้วก่อเหตุอีก


จากการสอบถาม นางบี (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ป้าของ น.ส.เอ กล่าวว่า พ่อแม่ของน้องตายมาหลายปีแล้ว โดยพ่อของน้องเป็นน้องชายของตนเอง จึงได้เลี้ยงดูน้องแทนพ่อแม่เขา ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าสามีตนเองจะกระทำชำเราหลานสาวตัวเอง เพราะหลานไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง กระทั่งสามีหายออกจากบ้านได้ 3-4 วัน เริ่มรู้สึกผิดปกติ และหลานสาวเพิ่งมาบอกว่าถูกลุงข่มขืนและตั้งท้อง ตนตกใจไม่คิดว่าสามีจะทำแบบนี้ ก็คิดอะไรไม่ออกจึงไปปรึกษาญาติพี่น้องเขาก็แนะนำให้พาหลานไปทำแท้ง เพราะถ้าปล่อยเอาไว้กลัวจะเลี้ยงไม่ไหวและจะเป็นปัญหาสังคม เพราะลำพังจะอยู่กินวันๆ ยังลำบาก ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าสามีหนีไปไหน แต่ถ้ากลับมาคงไม่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพราะรับไม่ได้


อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพูดคุยกับป้าและหลาน มีญาติอีกคนมาแสดงความไม่พอใจต่อว่าเจ้าหน้าที่ และสื่อ บอกว่าไม่ต้องเข้ามายุ่ง เป็นเรื่องในครอบครัวเดี๋ยวจัดการกันเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่อธิบายว่าแม้จะเป็นเรื่องในครอบครัวแต่ผู้ถูกกระทำเป็นเยาวชน เมื่อมีคนร้องเรียนไปเจ้าหน้าที่ต้องมาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นก็ได้นำข้อมูลเสนอรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางให้ความช่วยเหลือเด็กตามกระบวนการอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น