xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มทำทางกรวดน้ำคว่ำขัน "อนุทิน" จบเส้นทางการเมือง ชดใช้กรรม ทำผู้หญิงเข้าไม่ถึงทำแท้งปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มคนทำทาง สาวเคยทำแท้ง กรวดน้ำคว่ำขันสาป “อนุทิน” จบการเมืองสมัยนี้-สมัยหน้า ซัดตัดงบส่งเสริมป้องกันโรค ไม่เหมาะสมนั่งทุกตำแหน่งบริหารประเทศ ชดใช้กรรมทำผู้หญิงเดือดร้อน พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้ผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. กลุ่มคนทำทาง พร้อมผู้หญิงที่เคยทำแท้ง, เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้ สธ.เร่งรัดดำเนินการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28 ) พ.ศ. 2564 พร้อมทำกิจกรรมกรวดน้ำทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้หญิงที่ต้องเสียชีวิตจากการเข้าไม่ถึงการทำแท้งที่ปลอดภัย จากนั้นได้ทำพิธีกรวดน้ำคว่ำขันตัดขาด สาปแช่งนายอนุทินให้ชดใช้กรรม จบการเมืองในสมัยนี้ ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งสมัยหน้า


น.ส.กรกนก คำตา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ กลุ่มนำทาง กล่าวว่า การกรวดน้ำวันนี้มี 2 วัตถุประสงค์ กรวดน้ำครั้งแรกเพื่อทำบุญให้กับผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการกรวดน้ำคว่ำขันตัดเวร ตัดกรรมจากนายอนุทิน ที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยหลังจากที่กฎหมายมีการแก้ไข ทำให้คนควานหาที่ทำแท้งถูกกฎหมายแต่ก็หาไม่เจอ ต้องเจ็บปวด เสียเงินจากการไปซื้อยาเถื่อน หรือทำแท้งเถื่อนจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ สปสช.มีงบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรรค สำหรับการท้องแท้งปลอดภัยในสถานพยาบาลรายละ 3 พันบาท แต่ล่าสุดนายอนุทินกลับเซ็นยกเลิกจัดงบฯ นี้ในกลุ่มข้าราชการ และกลุ่มผู้ประกันตน

“ดังนั้น นี่เป็นความเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายอนุทิน โดยต้องออกจากการเป็นรัฐมนตรี สธ. และไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดเลย ยิ่งไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ ของประเทศนี้ เพราะตั้งแต่การบริหารโควิด 19 ที่ผิดพลาด การตัดงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค จึงขอสาปแช่งนายอนุทินไม่ให้ได้เป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นสมัยไหน ต้องชดใช้กรรมที่ทำให้ผู้หญิงเดือดร้อน” น.ส.กรกนก กล่าว


นางสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง กล่าวว่า ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการทำแท้งที่ปลอดภัยได้ แต่กลับพบว่ายังมีผู้หญิงจำนวนมากเข้าไม่ถึงบริการทำแท้งที่ปลอดภัย ทำให้ต้องไปซื้อยาเถื่อนมาทำแท้งเอง ส่วนตัวเลขนั้นต้องขอบอกว่า มีการรายงานเพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2542 จากนั้นเป็นเพียงการเฝ้าระวังในรพ.เพียง 1 แห่ง ต่อ 1 เขตสุขภาพ ดังนั้น จึงทำให้ข้อมูลคนเสียชีวิตจากการทำแท้งของผู้หญิงขาดหายไป หรือมีเพียงหลักหน่วย อย่างไรก็ตาม เนื่องในวาระที่กฎหมายทำแท้งฉบับแก้ไขใหม่มีผลบังคับใช้มาแล้ว 2 ปี จึงขอเรียกร้องให้ สธ.ดำเนินการ ดังนี้ 1.ประกาศรายชื่อสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย และรายชื่อหน่วยงานให้การปรึกษาทางเลือกทั่วประเทศให้ประชาชนรับทราบ 2.กำหนดให้สถานบริการสาธารณสุขภายใต้สังกัด สธ.ดำเนินการจัดให้มีบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย อย่างน้อยจังหวัดละ 1 สถานบริการ โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับกระทรวงว่าจะต้องเพิ่มจำนวนสถานบริการให้ได้อย่างน้อยปีละ 5-10 สถานบริการ 3.กำหนดให้สถานบริการสาธารณสุขภายใต้สังกัด สธ.ที่ไม่ต้องการจัดตั้งหน่วยบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย มีหน้าที่ที่จะต้องส่งต่อผู้รับบริการไปยังสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยตามระบบ และ 4.ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรสาธารณสุขเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย
















กำลังโหลดความคิดเห็น