xs
xsm
sm
md
lg

พ่อค้าแม่ค้าไทย-กัมพูชาเรียกร้องยกระดับ “ช่องสายตะกู” เป็นด่านผ่านแดนถาวร กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - พ่อค้าแม่ค้าทั้งไทย-กัมพูชาเรียกร้องเร่งยกระดับจุดผ่อนปรนชายแดนช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ เป็นด่านผ่านแดนถาวร ให้ ปชช.สามารถเดินทางท่องเที่ยวซื้อขายสินค้าระหว่างกันสะดวกไม่จำกัดเฉพาะคนท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวชายแดน เผยร้านค้าหลายแห่งต้องปิดชั่วคราวเพราะยอดขายน้อยไม่คุ้มทุน

วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้าแม่ค้าทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย และช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้เป็นด่านผ่านแดนถาวร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งสองฝั่งสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้า โดยไม่ต้องจำกัดเฉพาะคนในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดเท่านั้น เชื่อว่าหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรก็จะส่งผลให้การค้าขายคึกคักมากกว่านี้ จะส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้ที่ยังเป็นจุดผ่อนปรนก็มีประชาชนมาเที่ยวและซื้อสินค้าค่อนข้างเงียบเหงา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยต้องปิดร้านไปทำอาชีพอื่นชั่วคราวเพราะยอดขายน้อยไม่คุ้มต้นทุน


นางละม่อม ทวรรณเวช แม่ค้าฝั่งไทย บอกว่า ช่วงนี้การค้าขายที่ตลาดช่องสายตะกูเงียบเหงา เพราะเปิดให้เฉพาะคนอำเภอบ้านกรวดเข้าได้เท่านั้น ประชาชนจะเป็นกลุ่มเดิมๆ ซึ่งอาจจะไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ขายได้เฉลี่ยวันละ 1-2 พันบาท จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวร เหมือนกับด่านผ่านแดนจังหวัดอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนจากทุกจังหวัดสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวและข้ามไปซื้อสินค้าที่ช่องสายตะกูดังกล่าวได้ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้าได้เพิ่มมากขึ้นและสามารถอยู่รอดได้ เพราะช่วงที่เปิดจุดผ่อนปรนแรกๆ มีพ่อค้าแม่ค้ามาเปิดจำหน่ายสินค้าอุปโภคมากถึง 200 ร้าน แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 20 ร้าน เพราะหลายคนขายไม่ได้จึงหยุดขายชั่วคราว


ด้าน นายลิม พ่อค้าชาวกัมพูชา บอกว่า ในฐานะที่ตนเป็นชาวกัมพูชาก็อยากให้ทางฝั่งไทยเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวร หรือเปิดเสรี ให้คนจากทุกจังหวัดสามารถเดินทางมาได้ เพราะทุกวันนี้ขายได้แค่วันละ 500-1,000 บาทเท่านั้น เพราะฝั่งไทยเปิดให้แค่คนในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดเดินทางข้ามฝั่งได้เท่านั้น แต่ฝั่งกัมพูชาเปิดเสรีแล้วประชาชนจากทุกจังหวัดสามารถข้ามมาซื้อของได้แล้ว


ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมคณะส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ได้เดินทางมาพบปะพูดคุยหารือกับ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุมนเรนทราทิตย์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

พร้อมทั้งได้หารือแนวทางการยกระดับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย-ช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และแสวงหาความร่วมมือด้านอื่นๆ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ แต่ขณะนี้ฝั่งไทยยังติดขัดด้วยข้อกฎหมายบางส่วน และพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก (ดงพญาเย็น-เขาใหญ่) ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นตอนขอเพิกถอนพื้นที่ และขอใช้พื้นที่ป่าไม้บางส่วน ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


ปัจจุบันฝั่งไทยได้อนุญาตให้เฉพาะประชาชนอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่สามารถข้ามไปยังฝั่งจุ๊บโกกีได้ ส่วนฝั่งกัมพูชาอนุญาตให้ประชาชนทุกอำเภอสามารถข้ามแดนมาติดต่อซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันได้ และทราบว่าฝั่งกัมพูชาได้ทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อมยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังเปิดให้ทำการค้าขายกันสัปดาห์ละ 5 วัน คือ วันพุธถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.

ส่วนจะมีการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวรได้หรือไม่นั้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง








กำลังโหลดความคิดเห็น