เลย - ไฟป่าจังหวัดเลยส่งผลกระทบค่า PM 2.5 พุ่ง 110 สูงระดับสีแดง ชาวบ้านเริ่มป่วยโรคทางเดินหายใจ ด้านทหารระดมพลเข้าพื้นที่ตะลุยดับไฟไม่ให้ลุกลาม เผยสาเหตุใหญ่ทำให้เกิดไฟไหม้ล้วนจากฝีมือมนุษย์ทั้งเผาไร่อ้อย และเผาป่า
วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจวัดสภาพอากาศในเขต อ.เมือง จ.เลย โดยแอปพลิเคชัน Air4Thai ซึ่งรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเป็นรายชั่วโมง โดยกรมควบคุมมลพิษพบว่าค่า AQI เพิ่มสูงถึง 220 ไมโครกรัม สูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และยังพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่า 110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีค่าสูงระดับสีแดง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ทั้งนี้ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาอ้อย และเผาป่า ลุกไหม้อย่างหนักเกือบทุกพื้นที่ และได้ส่งผลให้เกิดควันปกคลุมในอากาศอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านเริ่มมีผู้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลและคลินิกจำนวนมาก
ล่าสุดจากรายงานพบว่าเกิดไฟไหม้ป่าเป็นบริเวณกว้าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต จุดบริเวณภูชีน้อย บ้านห้วยส้ม บ้านโนนงาม บ้านชำบ่าง ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง และภูอ่าง เขตรอยต่อบ้านก่อไผ่โทน บ้านร่องไผ่ บ้านโคกใหญ่ อำเภอท่าลี่ จ.เลย
ส่วนด้านบริเวณป่าภูสะนาว ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูห้วยหมาก ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลศรีสองรัก หน่วยป่าไม้ หน่วยควบคุมไฟป่ายังบูรณาการร่วมภารกิจดับไฟป่าบนเทือกเขาภูสะนาวที่ลุกไหม้มากว่า 1 สัปดาห์ เพื่อควบคุมดับไฟไม่ให้ลุกลาม และทำแนวกันไฟบนภูสะนาว ป้องกันไฟอยู่ในเขตควบคุม
ขณะที่ทางด้าน พ.ท.รพีพงศ์ นิติสมบูรณ์ หน.กนผ.กอ.รมน.จังหวัดเลย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เข้าพบปะชุมชนรอบค่ายศรีสองรัก ประกอบด้วยชุมชนบ้านโคกสว่าง ม.10 บ้านท่าบุ่ง ม.5 และบ้านปากหมาก ต.ศรีสองรัก อ.เมือง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ งดการจุดไฟเผาป่า ผลกระทบของไฟป่า ตลอดจนขอความร่วมมือผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในความดูแลของตนเองไม่ให้เผาป่า ที่จะสร้างผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เกิดสภาวะมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ในขณะที่ชาวบ้านเริ่มป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ