นครปฐม - หนุ่มใหญ่เมืองนครปฐมถูกเจ้าของที่ปลอมแปลงสัญญาเช่าที่ดิน พร้อมไล่ที่ยึดของในร้านจนเกลี้ยงหมดตัว เผยเข้าแจ้งความไว้แล้ส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมลงพื้นที่ แต่ถูกเจ้าของที่ดินไล่ตนและตำรวจออกมาจากร้าน
นายประสิทธิ์ คงฤทธิ์ อายุ 46 ปี และภรรยา กล่าวว่า ตนเองได้ไปขอเช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดินเพื่อมาทำร้านอาหาร ร้านดนตรี โดยเป็นที่ดินเปล่า ทำสัญญาเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 โดยตนมาเคลียร์พื้นที่ ถมดิน สร้างร้าน และทาสี เองทุกอย่าง เปิดดำเนินการได้ปีกว่าๆ มาเกิดปัญหาที่ต้องที่ค้างค่าเช่าในช่วงโควิดเดือน ก.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว ทำให้ขายไม่ได้ ลูกค้าไม่เข้าร้าน
โดยช่วงนั้นทางเจ้าของที่ดินบอกไม่เป็นไร และปลายเดือน ธ.ค.65 ตนเองทยอยจ่ายไป 8,500 บาท ต่อมา วันที่ 20 มกราคม 66 ที่ผ่านมา จ่ายไป 14,500 บาท วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 66 จ่ายค่าไฟอีก 1,500 บาท แต่เจ้าของที่ดินไล่ตน ไม่ให้ตนเข้าร้าน และไล่พนักงานออกหมด รวมถึงข้าวของยึดไปหมด จนตนไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งเมื่อตนเองไปตรวจสอบถึงรู้ว่ามีการแก้ตัวเลขในหนังสือสัญญา จากวันทำสัญญาปี 2564 เป็นปี 2563 และวันหมดสัญญาจากปี 2566 เป็นปี 2565 และแก้อายุตนจากอายุ 45 เป็น 44 ซึ่งเมื่อตนดูพบว่ามีรอยลบ และใช้น้ำยาลบคำผิดลบออกและเขียนเลขใหม่
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การที่ตนเองตรวจสอบเจอหนังสือสัญญาที่ถูกแก้นั้น เจ้าของที่ดินได้มาขอยืมตน บอกว่าจะไปทำเรื่องกู้เงิน ตนให้ไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไร จนเขาเอามาคืนไม่ได้ดูจนไปร้องศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่บอกว่าสัญญาหมดอายุจึงรู้และตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.โพรงมะเดื่อ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากับตนที่ร้านเพื่อจะเอาของคืน แต่ถูกเจ้าของที่ดินด่า ไล่ตนและตำรวจออกมาจากร้านซึ่งตนมีคลิปที่ถ่ายไว้
โดยนายประสิทธิ์ ได้นำหม้อหุงข้าวขนาดเล็กมาให้ผู้สื่อข่าวดู และบอกว่าในบ้านไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะของใช้ต่างๆ ตนนำไปใช้ที่ร้าน และถูกเจ้าของที่ยึดไปหมด ซึ่งตนแค่อยากได้ของคืน จะได้นำมาทำมาหากินหรือขายใช้หนี้ ซึ่งตอนนี้ตนมีหนี้นอกระบบอีก 2 หมื่นกว่าบาท และมีลูกอีก 2 คน อายุ 10 ขวบ กับ 9 ขวบ ค้างค่าเทอมอยู่ จนครูโทร.ทวงแล้ว ซึ่งตนและภรรยากลุ้มใจมาก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวด้วย