เชียงใหม่ - อธิบดีกรมโยธาฯ สั่งคุมเข้มงานก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน จ.เชียงใหม่ กำชับป้องกันทุกขั้นตอนไม่ให้น้ำเสียจากชุมชนไหลลงคลองแม่ข่าระหว่างการก่อสร้าง
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายวิรัช ตั้งมั่นคงวรกูล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ พร้อมสั่งกำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้น้ำเสียจากชุมชนไหลลงคลองแม่ข่าระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่คลองแม่ข่าให้เป็นระเบียงการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะเชื่อมโยงย่านสำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองเข้าด้วยกัน โดยพิจารณาในด้านศิลปวัฒนธรรม การจัดการน้ำเสีย ที่อยู่อาศัย เศรษฐกิจชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมานั้นคลองแม่ข่าเป็นทางระบายน้ำทั้งน้ำฝนและน้ำเสียจากชุมชนโดยตรง จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำในคลองแม่ข่าเน่าเสีย
ดังนั้น เพื่อให้แนวทางการพัฒนาพื้นที่คลองแม่ข่าของรัฐบาลมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรม กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อผันน้ำท่วม พร้อมระบายน้ำเสียออกจากพื้นที่ชุมชนช้างเผือก ที่จากเดิมเคยไหลลงสู่คลองแม่ข่าโดยตรง ทำให้น้ำในคลองแม่ข่าเน่าเสีย โดยโครงการฯ ถูกออกแบบให้รวบรวม แล้วระบายน้ำจากชุมชนช้างเผือกลงอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ ลอดใต้คลองแม่ข่าไปลงแม่น้ำปิง อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้วางแผนให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำปิงอีกด้วย
นายพงศ์รัตน์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง จึงได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการให้เรียบร้อยและแล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้งยังได้กำชับให้มีการป้องกันและระมัดระวังอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน ไม่ให้น้ำเสียจากชุมชนไหลลงคลองแม่ข่าในระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้ หากโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ ระยะที่ 2 แล้วเสร็จ จะทำให้การพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าเห็นผลเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
