พิษณุโลก - นักการเมืองต้องทำได้ทุกอย่าง..ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 2 พิษณุโลก กระโดดลงแขกดำนาชุมชนบ้านนาขุม พรหมพิราม พื้นที่เป้าหมายเขตเลือกตั้ง แม้จะเก้ๆ กังๆ แต่ใกล้เลือกตั้งต้องลุยเรียกคะแนน
วันนี้ (8 ก.พ. 66) นายณรงค์ไชย บุตตวงศ์ นายอำเภอพรหมพิราม นายวัชร์วีร์ พืชพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และชาวบ้านชุมชนเครือข่ายชีววิถี ร่วมเปิดศูนย์เรียนรู้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.-บ้านนาขุม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ซึ่งมีการร่วมลงแขกโยนกล้า ปลูกข้าวนาปรัง แปลงข้าว "ชุมชนบ้านนาขุม" ที่เริ่มฤดูเพาะปลูกแล้ว เนื่องจากอยู่ในเขตบางระกำโมเดล มีระบบชลประทานหล่อเลี้ยง
ระหว่างที่นายอำเภอพรหมพิรามและชาวบ้านต่างลงแขกปลูกข้าวในแปลงสาธิตนั้น โฆษกฯได้ประกาศเชิญชวนนายอิทธิพล บุปผะศิริ ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 2 ร่วมดำนาด้วย ก่อนที่นายอิทธิพลจะสวมรองเท้าบูตกระโดดลงแปลงนาข้าวร่วมลงมือดำนากับชาวบ้าน
ซึ่งแม้ท่าทีว่าที่ผู้สมัครเขต 2 พิษณุโลก พรรคภูมิใจไทย จะเก้ๆ กังๆ ไปบ้างเนื่องจากเป็นคนเมือง แต่ด้วยสถานการณ์ใกล้เลือกตั้งแบบนี้ ทำให้นักการเมืองสามารถทำทุกอย่าง ท่ามกลางเสียงเฮกันลั่น เนื่องจากขาปักลงโคลนดิ่งลึกแทบดึงไม่ขึ้น แต่ด้วยความเป็นอดีตนายอำเภอพรหมพิรามและอำเภอเมืองพิษณุโลก เพิ่งลุกจากรองนายก อบจ.พล.ก็สามารถแก้สถานการณ์ไปได้ ทำให้การลงดำนาข้าวนาปรังของว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยร่วมกับชาวบ้านได้อย่างแนบเนียนจนเสร็จสิ้นเต็มแปลงสาธิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่อำเภอพรหมพิรามส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม สามารถทำนาได้เพียงอย่างเดียว แทบไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นได้ กฟผ.จึงได้ดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บอกให้ชาวบ้านเพาะปลูกกะหล่ำกินเอง, เลี้ยงปลา, เลี้ยงหมู ฯลฯ ไม่ต้องซื้อจากร้านภายนอก เพื่อลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ในครัวเรือน ส่วนแปลงนาข้าวนั้น ได้สนับสนุนให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยใช้จุลินทรีย์ เน้น ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี
ภาพรวมหลักๆ คือ ทำตามหลักทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่ง กฟผ.ทำไปแล้วทั่วประเทศและสามารถตั้งวิสาหกิจชุมชนในพิษณุโลกสำเร็จไปหลายแห่ง มีการระดมหุ้นระดมเงินจากคนในพื้นที่เลี้ยงหมู, เลี้ยงปลา ฯลฯ อนาคตยังต่อยอดเป็นแหล่งศึกษาดูงาน-ท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อไปอีกด้วย