พิษณุโลก - นายอำเภอ-จนท.ป่าไม้จับชาววังทองตัดโค่นไม้สักต้นเขื่องวางเรียงเป็นตับขายคนรับซื้อจากราชบุรี อ้างขึ้นในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จับพิกัดพบโคนต้นสักบางตออยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ กำนัน-ผญบ.ยันซ้ำเป็นไม้ป่าธรรมชาติ เห็นมาตั้งแต่เด็ก
วันนี้ (4 ก.พ. 66) นายปรีชา พรมมะกุล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 (น้ำยาง) นายสำรวย ชมบุญ หัวหน้าสายตรวจสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ นายสมพงษ์ หอมสนิท นายอำเภอวังทอง, ปลัดอำเภอ พร้อม จนท.ป่าไม้และปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจยึดไม้สักท่อน ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านวังตาด ต.บ้านกลาง อ.วังทอง หลังรับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดไม้สักท่อนเตรียมพร้อมชักลากออกนอกพื้นที่
เมื่อคณะเจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกตรวจสอบ พบกองไม้สักท่อนสดใหม่ ลักษณะเพิ่งถูกตัดทอน ไม่พบรูปรอยดวงตรา วางเรียงกันอยู่ และพบร่องรอยรถแทรกเตอร์ล้อยาง ชักลากจากตอไม้สัก ระยะทาง 200 เมตร รวมทั้งพบตอไม้สักที่ถูกตัดโค่นจำนวน 28 ตอ
ขณะตรวจสอบได้มีบุคคลชาย-หญิงรวม 2 คน เดินทางเข้ามายังบริเวณที่คณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ ทราบชื่อภายหลังคือ 1. นาง ร. (นามสมมติ) ชาวตำบลวังนกแอ่น ระบุว่า เป็นเจ้าของไม้สักท่อนที่สัญลักษณ์กากบาทสีดำ ตรวจนับได้ 8 ท่อน ซึ่งได้ขายให้ชาวราชบุรี พร้อมได้นำสำเนาเอกสารการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่มาแสดง 2. นาย ม.รับว่าเป็นเจ้าของไม้สักท่อน 28 ท่อน ขายให้คนราชบุรีเช่นกัน พร้อมนำสำเนาเอกสารการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ มาแสดง
อย่างไรก็ตาม คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ พบว่าบริเวณที่มีการตัดโค่นไม้สักดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา เมื่อใช้เครื่องมือตรวจหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม (GPS) จับค่าพิกัดตอไม้สักจำนวน 28 ตอ พบรูปแปลงที่ดินของนาง ร. พบว่ามีตอไม้สักในแปลงการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จำนวน 7 ตอ รูปแปลงที่ดิน นาย ม. มีตอไม้สัก อยู่ในแปลง ส.ป.ก. จำนวน 3 ตอ ส่วนอีก 17 ตอ อยู่นอกแปลงการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เท่ากับว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา
จากการตรวจสอบกับภาพถ่ายทางอากาศ เชื่อว่าเป็นต้นสักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ใช่ต้นสักที่ปลูกขึ้นแต่อย่างใด โดยผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่าตอไม้สักจำนวน 20 ตอที่พบในพื้นที่ครอบครองทำประโยชน์ของนาย ม. นั้น เป็นไม้สักที่เกิดขึ้นธรรมชาติเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก
คณะเจ้าหน้าที่ตรวจนับจำนวน และคำนวณปริมาตร พบเป็นไม้สักท่อน 36 ท่อน ปริมาตร 36.4 ลบ.ม. คิดมูลค่าไม้ของกลางประมาณ 2,184,600 บาท ก่อนตีตราประทับยึด พร้อมทั้งขออนุมัติชักลากไม้สักท่อนของกลาง เก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าน้ำยาง พร้อมกล่าวหานาง ร. และ นาย ม. ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน "ทำไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต" มาตรา 69 ฐาน "มีไว้ในครอบครอง ซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมกับกล่าวหานาย ม.เพิ่มเติม ฐานทำไม้อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน ทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังทอง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป