ราชบุรี - สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในราชบุรี สูงเกินค่ามาตรฐาน เหตุเพราะมวลอากาศเย็น นอกจากนี้ โดยรอบพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี ยังคงมีการจุดเผากองขยะและทำให้ไฟลุกลามขึ้นไปไหม้บนภูเขา ทำให้ควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้นั้นฟุ้งกระจายไปทั่ว
วันนี้ (3 ก.พ.) สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่อำเภอเมือง จ.ราชบุรี สามารถวัดค่าในช่วงเช้าได้ 106 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และในช่วงกลางวันวัดได้ 97 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่าสูงกว่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นอกจากนี้ โดยรอบพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี ยังคงมีการจุดเผากองขยะ และทำให้ไฟลุกลามขึ้นไปไหม้บนภูเขา ซึ่งมีหญ้าและต้นไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ฟุ้งกระจายไปทั่ว
ซึ่งในเรื่องนี้ ดร.รวมทรัพย์ คะเนะดะ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 บอกว่า ในปัจจุบันการตรวจเช็กค่าฝุ่นละอองนั้นสามารถโหลดแอปมาดูค่าได้ว่าเกินมาตราฐานในแต่ละวันหรือไม่ โดยจะแสดงในพื้นที่ที่เราอยู่ ซึ่งในขณะนี้ค่าของฝุ่นละออง PM2.5 นั้นเกินมาตรฐานและเริ่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพมา 3 วันแล้ว
จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ควรสวมหน้ากากอนามัยเวลาไปในที่โล่งแจ้ง ซึ่งในช่วงที่สถานการณ์โควิดระบาดทุกคนส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว ส่วนคนที่แพ้หรือไวต่อการแพ้ฝุ่นละอองจะต้องป้องกันตนเอง และถ้ามีอาการให้รีบไปพบแพทย์ นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมืองดเผาทุกชนิดเนื่องจากในช่วงนี้มวลอากาศเย็น ทำให้อากาศนิ่ง และไม่ถ่ายเท ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจะจับตัวนิ่งและสะสมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากอากาศอยู่ในสภาพปกติค่าของฝุ่นละอองจะลดลง
ส่วนเรื่องของการเผาศพในช่วงที่สถานการณ์โควิดแพร่ระบาดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด PM2.5 เนื่องจากมีการเผากันบ่อยมาก แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง ในช่วงนี้จึงอยากให้ทุกคนงดเผา ทั้งเผาขยะ เผาไร่อ้อย หรือเผาป่า แต่ให้ใช้วิธีนำเศษวัสดุ หรือขยะมาทำการหมักเพื่อนำไปทำประโยชน์ต่อได้ นอกจากนี้ ได้มีการไปตรวจสอบตามโรงโอ่ง ซึ่งใน จ.ราชบุรี มีหลายโรง เนื่องจากโรงโอ่งนั้นจะต้องใช้ไม้ฟืนในการเผา ได้ไปขอความร่วมมือมาแล้วว่าขอให้หยุดเผาไปก่อน