เพชรบูรณ์ - หนุ่มเจ้าของร้านกาแฟศรีเทพวอนขอความปลอดภัยในชีวิต..หลังโดนกลุ่มคนอ้างมีสี-เป็น ขรก.ใหญ่โต บุกร้านกลางวันแสกๆ บังคับเซ็นเอกสารรับหนี้เกือบล้าน พร้อมขู่ทำร้าย หากไม่ชดใช้โดนกระทืบแน่นอน
นายทัศนัย พันธุ์น้อย อายุ 39 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 35/2 หมู่ 5 ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. ในขณะที่ตนขายกาแฟอยู่ที่ร้านกาแฟสดศรีเทพ ที่เปิดบริเวณบ้าน ติดกับทางหลวงหมายเลข 21 (ถนนสระบุรี-หล่มสัก) และอยู่ในแหล่งชุมชน ใจกลางตลาดบ้านกลาง ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ ได้มีชายฉกรรจ์ พร้อมพวก ประมาณ 7-15 คน ใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์ จำนวน 3-4 คัน
จากนั้นได้บังคับตนเข้าไปนั่งในบ้าน แล้วแจ้งว่าเป็นคนมีสี มีหน้าที่ตำแหน่งใหญ่โต เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เสียหาย ซึ่งอ้างแจ้งว่าได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม และสถานีตำรวจภูธรศรีเทพ พร้อมบังคับ ข่มขู่ให้เซ็นเอกสารจำนวนมากเพื่อเป็นการรับสารภาพ และยอมรับว่าเป็นหนี้กับบุคคลที่ปรากฏชื่อในเอกสาร ทั้งหมด 800,000 บาท และหากไม่ชดใช้ตามกำหนด 28 ก.ค. 66 กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะกลับมาอีกครั้ง
นายทัศนัยบอกว่า ในภาวะที่ถูกข่มขู่ผู้เสียหายจำเป็นต้องยินยอมเซ็นเอกสารดังกล่าวเพื่อเอาตัวรอด โดยไม่ได้อ่านรายละเอียดแต่อย่างใด และตอนสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปได้มีหนึ่งในจำนวนที่เดินทางมากับกลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาทำร้ายโดยไม่ทราบเหตุผล ตนเองก็ได้แต่ปัดป้องเพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากที่กลุ่มคนดังกล่าวกลับไปแล้ว ผู้เสียหายได้ปรึกษากับคนที่ไว้ใจได้หลายคน และตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเทพ เพื่อดำเนินคดีกลุ่มบุคคลดังกล่าว และเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
จากนั้นตนก็ประสานงานกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอภาพวงจรปิดในช่วงเวลาเกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีใครได้บันทึกภาพไว้ จนล่าสุดได้รับการติดต่อทาง Tiktok จากข้อความที่ตนเองได้โพสต์ไปเพราะความอัดอั้นที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือไม่มีเบาะแสใดๆ ก็ได้รับภาพบางส่วนในวันเกิดเหตุที่กลุ่มคนดังกล่าวได้บันทึกไว้ และมีตอนที่ตนเองถูกทำร้ายด้วย แต่ก็ไม่ทราบว่าส่งมาเพราะเหตุใด หลังจากส่งคลิปมาก็บล็อกการติดต่อไปเลย
นายทัศนัยบอกอีกว่า หลังจากวันเกิดเหตุชีวิตเปลี่ยนไปมาก ต้องคอยระแวดระวังเกรงว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะกลับมาทำร้าย จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ รายได้ก็หายไป ที่สำคัญเป็นห่วงบิดา มารดา ที่อายุมากแล้วเกรงจะถูกทำร้ายไปด้วย ทำให้เกิดความเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากวอนขอหน่วยงานมาให้ความช่วยเหลือ ให้ตนเองสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ และขอความปลอดภัยของตนเองคืนมา