เชียงใหม่ - “ปลัดจอมแฉ” พร้อมนายหน้าแรงงานเชียงใหม่ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วกรณีถูกกลุ่มคนอ้างข้าราชการระดับสูงเรียกเก็บเงินกินเปล่าค่าทำบัตรต่างด้าว พาพยานขึ้นโรงพักเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ชี้ชัดนักการเมืองท้องถิ่นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จี้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเอาผิดทุกคนที่มีเอี่ยว เผยสุดผิดหวังเคยแจ้งเรื่องและร้องขอความช่วยเหลือจากข้าราชการระดับสูงผู้รับผิดชอบ แต่กลับนิ่งเฉยจนน่าสงสัย
ความคืบหน้าคดีที่นายหน้าแรงงานต่างด้าวที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลที่เรียกเก็บเงินกินเปล่าจากแรงงานต่างด้าวคนละ 300-400 บาท ในระหว่างกระบวนการทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว ที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงวันที่ 9-13 ม.ค. 66 ซึ่งหากไม่ยินยอมจ่ายเงินให้จะไม่ได้รับบัตรประจำตัว โดยมีการแอบอ้างว่าเป็นไปตามนโยบายและคำสั่งจากข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่ ที่สั่งการผ่านนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งให้เป็นผู้ดำเนินการ
วันนี้ (27 ม.ค. 66) ที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ในการปฏิบัติราชการแทนในการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว พานายกิตติ บัณฑิตอาภรณ์ นายหน้าแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แจ้งความไว้ พร้อมด้วยพยานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันในประเด็นที่มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินกินเปล่า และรายละเอียดหลักฐานการโอนเงินที่จะเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยนายกิตติเปิดเผยว่า ตัวเองมีพยานและหลักฐานว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่คนหนึ่งเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นคนนี้เคยเดินทางมาพร้อมชายฉกรรจ์เข้ามาพูดคุยกับตัวเองที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 เพื่อแจ้งว่าต้องจ่ายเงินกินเปล่า ไม่เช่นนั้นแรงงานต่างด้าวจะไม่ได้รับบัตร ซึ่งด้วยความเกรงกลัวทำให้ตัวเองต้องยินยอม เพราะก่อนหน้านี้ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่ที่รับผิดชอบทราบแล้ว แต่กลับไม่ได้รับความสนใจหรือตรวจสอบใดๆ เลย จนกระทั่งได้เข้าร้องทุกข์ต่อปลัดอำเภอสันทราย ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ที่ปฏิบัติงาน และได้รับความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หลังเข้าแจ้งความแล้ว ปรากฏว่าผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งและชื่อเสียงคนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวและกลุ่มบุคคลที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ได้ติดต่อเข้ามาพยายามพูดคุยเจรจาเกลี้ยกล่อมตัวเองให้ยุติให้เรื่องการแจ้งความดำเนินคดีและให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าว ซึ่งตัวได้แจ้งกลับไปว่าไม่น่าจะทันเวลาแล้ว โดยจากนี้การดำเนินการทุกอย่างคงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งวันนี้ตัวเองได้พาพยานที่เห็นเหตุการณ์ช่วงที่นักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวพร้อมชายฉกรรจ์เข้ามาหาตัวเอง และพยานพร้อมหลักฐานการโอนเงินเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
ขณะที่นายบุญญฤทธิ์บอกว่า จากนี้ทางผู้เสียหายกำลังทยอยเข้าให้ข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวนหลังจากที่ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยที่ตัวเองในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนเตรียมจะเข้าให้ถ้อยคำแก่พนักงานสอบสวนด้วยเช่นกันเพื่อให้เอาผิดผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดในกรณีนี้ทุกคน โดยจะขอให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อเชื่อมโยงกันด้วย ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการทำบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวนั้น พบว่าเวลานี้ในแต่ละวันทางเจ้าหน้าที่สามารถทำให้ได้ลดลงหลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องการเรียกเก็บเงินกินเปล่า ซึ่งจะทำรายงานให้นายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานเกี่ยวข้องทราบ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป