xs
xsm
sm
md
lg

‘อุ๊งอิ๊ง’ เคือง ส.ว.กรณีระบุแม้เพื่อไทยได้ 300 เสียงก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เป็นคอมเมนต์ที่น่าอาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี จวก ส.ว.กรณีระบุแม้เพื่อไทยได้ 300 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เป็นคอมเมนต์ที่น่าอาย และไม่ให้เกียรติประชาชน

เย็นวันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี พร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ซึ่งมีประชาชนกลุ่มผู้สนับสนุนสวมเสื้อแดงมาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดง เพื่อให้กำลังใจ

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาจากลาดกระบัง กทม. ที่ติดตามการเมืองมาตลอด มารอให้การต้อนรับ โดยระบุว่า ต้องการมาฟังการปราศรัย และส่งกำลังใจให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อีกด้วย โดยกลุ่มมวลชนได้ร้องตะโกนให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง และพรรคเพื่อไทยสู้ๆ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

จากนั้นได้เดินทางไปโรงแรม เดอะไซท์ ริเวอร์แคว ถนนแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เช่น ชาวเรือ ชาวแพ และโรงแรม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการและนักธุรกิจ ซึ่งการมาพบผู้ประกอบการครั้งนี้จะนำไปสู่การจัดทำเป็นนโยบายด้านการท่องเที่ยวในอนาคต


โดย น.ส.แพทองธาร เผยกับผู้สื่อข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาเกทับว่า “นายกเป็นรัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนและประเทศมากกว่าหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ขอเวลา 2 ปี เพื่อพลิกโฉมประเทศ” น.ส.แพทองธาร ถึงกลับย้อนคำพูดกึ่งถามว่า “2 ปี พลิกโฉมประเทศ” และพูดต่อว่า “ค่ะ 8 ปี ก็พลิกโฉมประเทศเหมือนกัน” พร้อมกับอมยิ้ม และว่า "จะดูว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อ แล้วแต่ประชาชน อยู่ที่ประชาชนเลือก เรามีความมั่นใจเหมือนเดิมที่อยากให้พี่น้องประชาชนที่ต้องลำบากมา 8 ปี ได้ลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของเรา"

จากนั้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้กล่าวต่อว่า “ตนเองว่าไม่ใช่การ “เกทับ” แต่เป็นการ “เก๊ทับ” มากกว่า หมายความว่า "สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศกับสิ่งที่ปรากฏต่อชีวิตประชาชนใน 8 ปี มันสวนทางกัน ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ สร้างประโยชน์ให้ประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรีได้จริง 8 ปีผ่านมาแล้ว จะไม่มีพรรคไหนสามารถประกาศตัวเป็นคู่แข่งขันได้อีกเลย แต่เวลานี้การสำรวจความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ในลำดับท้ายๆ ดังนั้น ผมคิดว่าการจะแสดงนโยบายต่อประชาชนก็เป็นสิทธิของทุกพรรค แต่การตัดสินใจเลือกก็เป็นสิทธิของประชาชนเหมือนกัน ดังนั้น เวทีเพื่อไทยเราจะเดินหน้าตามแนวทางที่เราเตรียมการไว้ และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเตรียมจะประกาศนโยบายสำคัญหลังการยุบสภา ถึงตรงนั้นอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหน้าจอทีวี ฟังหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยประกาศนโยบายดีกว่า"

ส่วนภาพการขึ้นเวทีปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งแรกตนเองมองว่า "แท้ที่จริง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองมาตลอดตั้งแต่อยู่ในกองทัพ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง เพียงแต่คนพวกนี้ฝังตัวในกลไกรัฐ ใช้อำนาจของกองทัพเล่นการเมืองโดยทรัพยากรที่มาจากภาษีของประชาชน ดังนั้น การขึ้นเวทีเมื่อวานเป็นเพียงการปลดหน้ากากออกให้ประชาชนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงว่าท่านเป็นนักการเมืองมาตลอด ส่วนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเดินหน้าไปอย่างไร อย่างที่เราเคยพูดกันว่า มันเป็นโจทย์ระหว่าง 2 พรรค คือ พลังประชาชนรัฐ กับรวมไทยสร้างชาติ เขาจะคิดกัน ส่วน เพื่อไทย เราคิดแต่การแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน"


สำหรับ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยค่อนข้างรุนแรง ระบุว่า “ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โกงทั้งตระกูล ถ้ายังมีระบอบทักษิณ อยู่ บ้านเมืองจะเหลือแค่เสา” น.ส.แพทองธาร ตอบว่า สมัยที่คุณพ่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำนโยบายมากมายให้ประเทศ ซึ่งทุกวันนี้ยังใช้กันอยู่ ดังนั้น คงไม่ได้เหลือแต่เสา ซึ่งตนมองว่าเป็นวาทะทางการเมืองที่บั่นทอนกัน ซึ่งเราหาเสียงเต็มที่ โดยการเอาผลงานที่เราเคยมี เอาของจริงมายื่นมาตอกย้ำให้ประชาชนเห็นว่าเราทำได้จริง แต่ว่าเขาไม่มีของจริง เขาก็ต้องออกมาพูดแบบนั้น ซึ่งมองว่าเป็นเกมใส่สีทางการเมือง

ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า คำว่าโกงทั้งตระกูล ถ้าเรามองในมิติทางการเมือง เป็นการปราศรัยบนเวทีที่ต้องระวังมากในเรื่องของข้อกฎหมายว่าเป็นการใส่ร้ายทางการเมืองหรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปพิสูจน์ ระหว่าง ‘ระบอบทักษิณ’ ที่เขาพยายามยกเป็นวาทกรรม และปลุกผีขึ้นมาสู้ตลอดกับ ‘ระบอบประยุทธ์’ 8 ปี ที่เราเห็น พี่น้องประชาชนเห็นประจักษ์ด้วยสายตาตนเองว่าระบอบไหนเป็นอย่างไร ซึ่งระบอบทักษิณ เกิดจากวาทกรรมที่เขาสร้างขึ้น เราเองมองว่า พอ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามายึดอำนาจมันเป็น ระบอบประยุทธ์ ที่ทำลายทุกอย่าง สำคัญที่สุดคือทำลายสิทธิเสรีภาพ ทำลายประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชน ยังไม่พอยังทำลายโอกาส มันต้องมาพิสูจน์กันว่า ระบอบไหนเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน แต่การไปกล่าวหาโกงทั้งตระกูล อันนี้เข้าข่ายใส่ร้ายแน่ ต้องฝากให้ระมัดระวังด้วย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว อายุมากแล้ว สมองก็ควรจะมากตามอายุไปด้วย


สำหรับกรณีที่มีความเห็นจาก ส.ว.ระบุว่า แม้เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ แต่ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลรวมเสียงได้ 276 เสียง น.ส.แพทองธาร ตอบว่า อันนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นที่แรงมาก เพราะว่าจริงๆ ทุกคนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย กล้าแสดงความคิดเห็นออกมาแบบนี้ไม่ดีเลยค่ะ ทำไมถึงไม่เคารพเสียงของประชาชน การออกมาพูดแบบนี้ไม่ใช่ที่ควรจะพูดในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประชาชนจะเห็นเองว่า แนวคิดของคนที่ไม่เคารพเสียงของประชาชนก็เป็นแบบนั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง

โดย นายณัฐวุฒิ กล่าวเสริมว่า แบบนี้ลูกอันธพาล คือถ้าหากว่าพรรคเพื่อไทย กับแนวร่วมฝ่ายค้านรวมกัน เขาบอกว่าแม้ว่าจะได้ 300 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ อันนี้ยิ่งกว่าการข่มขู่คุกคาม อันนี้คือการกดหัวประชาชนทั้งประเทศ เป็นการเหยียบย่ำอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งคราวนี้ เพราะถ้าหากว่าชนะไม่เด็ดขาด สิ่งที่คนพวกนี้คิดมันจะเกิดขึ้น และจะยาวไปถึงแก้วาระนายกฯ 8 ปี จะยาวไปถึงอีกทุกอย่าง เพื่อจะทำให้พวกเขารักษาอำนาจไว้ได้ เราจึงมีที่พึ่งเดียวคือประชาชน และผมไม่เชื่อถ้าหากพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านได้คะแนนรวมกันถึง 300 ที่นั่งจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ผมไม่เชื่อ ถ้าคุณคิดจะทำอย่างนั้นก็พิสูจน์กัน


“ถ้าเพื่อไทยได้ 250 เสียงขึ้นไป มองดูแล้ว ส.ว.ควรจะต้องโหวตตามมติของประชาชน ใช่ไหม” นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่เรารณรงค์ประกาศแลนด์สไลด์ 250 เสียง เพื่อเราจะทำแต้มต่อให้เท่ากับ ส.ว. ซึ่ง 250 เสียง เท่ากับเราเกินกึ่งหนึ่ง ได้อาณัติจากพี่น้องประชาชนเป็นเสียงข้างมาก ในเสียงข้างมากเรามั่นใจว่า ส.ว.จะมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบที่เห็นว่าประชาชนมอบให้พรรคเพื่อไทยแล้ว เขาไม่มีสิทธิปฏิเสธเป็นอื่น เขาต้องมาร่วมโหวต ส่วนจะโหวตให้ใครก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เขาต้องมาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และที่สำคัญถ้าเราได้ 250 เสียง ส.ว.จะไปโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หรือใครเป็น นายกฯ แล้วใช้เสียงข้างน้อยมาเป็นรัฐบาล นั่นคือการทำร้ายประเทศชาติ ทำลายประชาชน มันจะไปรอดได้อย่างไร แค่งบประมาณก็ไม่ผ่านสภาแล้ว เดือนเดียวยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จบแล้ว แล้วคุณจะทำไปทำไม ต้องฝากถามถึงจิตสำนึกด้วย

ทั้งนี้ การยุบสภาไม่เกี่ยวกับประกาศกฎหมายลูก แต่ความเหมาะสมเมื่อมีกฎหมายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรจะรีบคืนอำนาจให้ประชาชนได้ เพราะมีพร้อมทุกอย่าง ซึ่ง กกต.อาจจะขอเวลาบ้างเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง เป็นขั้นตอนตามกฎหมายไป เมื่อกฎหมายใหม่ประกาศใช้ มันพร้อมทุกอย่างแล้ว โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนพร้อมแล้ว ท่านควรพิจารณาได้ ก่อนจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เวลา 17.45 น. ที่ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายธีรชัย ระวิวัฒน์ และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี และปราศรัยโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด
กำลังโหลดความคิดเห็น