xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเชื่อยอด นทท.ตี๋หมวยฟื้นตัว-ตั้งเป้าปี 66 ผู้เข้าชม 5 แสนและรายได้ 120 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีชี้จีนเปิดประเทศให้คนเดินทางออกส่งสัญญาณดีดันยอดนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นตัว เชื่อยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเหมือนเดิม พร้อมชูไฮไลต์ใหม่ "น้ำพุดนตรี" สูง 30 เมตร ดึงดูดใจ คาดแล้วเสร็จเปิดตัวได้ ก.พ.นี้ ตั้งเป้าปี 2566 นักท่องเที่ยวเข้าชม 500,000 คน พร้อมเก็บรายได้ 120 ล้านบาท

(แฟ้มภาพ) นักท่องเที่ยวจีนเข้าเที่ยวชมเชียงใหม่อย่างคึกคัก ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19
นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า ในปี2562 ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 นั้น นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่งของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยในปีดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้นกว่า 600,000คน มีสัดส่วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ90% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีนเกิน50% หรือคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 300,000-400,000 คน ซึ่งจากการที่จีนเปิดประเทศอนุญาตให้คนจีนเดินทางออกไปต่างประเทศได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 8ม.ค.66 ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่านักท่องเที่ยวจีนน่าจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม มองว่าจากนี้การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นในลักษณะของการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือ FIT (Free Independent Travelers) มากกว่าแต่เดิมที่เดินทางท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม หรือ Group Tour ทำให้จะต้องมีการปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและตรงกลุ่มเป้าหมาย


ส่วนการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ระบุว่า นอกจากมาตรการทางด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 ที่ได้มีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นปกติอยู่แล้ว ขณะเดียวกันทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีการเพิ่มเติมในส่วนของกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ น้ำพุดนตรีที่ปรับปรุงใหม่ให้มีความพิเศษยิ่งใหญ่อลังการด้วยความสูง 30 เมตร พร้อมWater Screen และการแสดงแสงสีเสียง ซึ่งการดำเนินการคืบหน้าไปกว่า 70%แล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานให้นักท่องเที่ยวชมได้ในเดือน ก.พ. 66 นี้


สำหรับเป้าหมายในปี 2566 นั้น นางสาวฐิติรัตน์เปิดเผยว่า จากการที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีก โดยเชื่อมั่นว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังคงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเชียงใหม่ เหมือนช่วงก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะยังไม่กลับมามากเท่าปี 2562 ภายในเวลาอันสั้น

ชทั้งนี้ ในปี 2566 นี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวน 500,000 คน และมีรายได้ 120 ล้านบาท เทียบกับปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวประมาณ 600,000 คน และรายได้ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผลและเชื่อมั่นว่าน่าจะสามารถบรรลุได้ หากไม่มีปัจจัยลบที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย

(แฟ้มภาพ) นักท่องเที่ยวจีนเข้าเที่ยวชมเชียงใหม่อย่างคึกคัก ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19
กำลังโหลดความคิดเห็น