กาญจนบุรี - ชาวพญาตองซูร่วม 100 คนจ่อชายแดนเตรียมอพยพเข้าไทย หลังมีข่าวลือกองกำลังฝ่ายตรงข้ามเตรียมถล่มทหารพม่าอีกครั้งที่พญาตองซู คืนนี้ ส่วน จนท.คุมเข้ม
จากกรณีทหารพม่าส่งเครื่องบินแบบ YAK-130 จำนวน 3 ลำ บินมาทิ้งระเบิดโจมตีค่าย บ้านพักของ พ.อ.เพียวลิน หรือเอวัน หรือเอ้วา ผบ.บก.ยว.2/รอง ผบ.พล.น.2 กองกำลัง DKBA รวมทั้งบ้านพักกำลังพลกองกำลัง DKBA และที่ตั้ง บก.พัน.903 สถานที่ฝึกกองกำลัง DKBA กองกำลัง PDF ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านเจ่เชาว์ หรือบ้านเลวะโพ อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี รัฐกะเหรี่ยง พม่า ห่างจากช่องทางจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ระยะทางประมาณ 25-28 กิโลเมตร ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นเหตุทำให้กำลังพล DKBA พัน.903 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย ส่วนสถานที่ฝึกและอาคารบ้านพักกำลังพล และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา เวลาประมาณ 22.00 น.ของงคืนวันที่ 23 ม.ค. กองกำลัง DKBA ได้หวนกลับมาแก้แค้นด้วยการบุกเผาสถานที่สำคัญทางราชการของพม่า ทำให้ในเขตกิ่งอำเภอพญาตองซูเสียหายไปหลายแห่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เวลา 14.00 น. วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าประชาชนชาวพม่าที่อาศัยอยู่ภายในกิ่งอำเภอพญาตองซู ได้เริ่มเก็บข้าวของอพยพเข้ามาฝั่งไทย ดังนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบ ไปถึงพบมีทั้งหญิงและชาย รวมทั้งผู้สูงวัยและเด็กประมาณ 100 คน เริ่มเก็บข้าวของออกจากบ้านเดินทางมาอาศัยอยู่ตามบ้านญาติที่แนวชายแดนบ้างแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยคอยเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
จากการสอบถามชาวพม่าที่สามารถพูดไทยได้ ทราบว่ามีข่าวลือว่ากองกำลังฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหารพม่า พร้อมอาวุธครบมือมาโจมตีทหารพม่าอีกครั้งในคืนนี้ และมีข่าวลืออีกว่าให้ประชาชนรีบอพยพออกจากพื้นที่ภายใน 2 ชั่วโมง
เบื้องต้นทราบว่าบางส่วนมีญาติอยู่ฝั่งไทย จึงเตรียมไปอาศัยอยู่กับญาติเป็นการชั่วคราว ส่วนผู้ที่ไม่มีญาติยังพักอาศัยอยู่ตามแนวชายแดน หากมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจนถึงขั้นต้องอพยพเข้ามาในไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยพร้อมที่จะรองรับด้วยการจัดเตรียมสถานที่เอาไว้ 3 แห่ง ประกอบด้วย วัดเตาถ่าน รวมทั้งโรงเรียนบ้านพระเจดีย์ สาขาซองกาเรีย และที่วัดถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ซึ่งสถานที่ทั้ง 3 แห่ง เคยใช้เป็นสถานที่รองรับผู้อพยพมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะติดตามรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
