ศูนย์ข่าวศรีราชา - “กัน จอมพลัง” นำสาวเอนฯ วัย 30 ปี จี้ถามความคืบหน้าทางคดีตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังถูกอดีตแฟนกัดใบหน้าจนเสียโฉมทำงานไม่ได้ หวั่นผู้ก่อเหตุเป็นญาติระดับสารวัตร ทำคดีไม่คืบ
วันนี้ (23 ม.ค.) “กัน จอมพลัง” ได้นำตัว น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เข้าติดตามความคืบกรณีที่ถูกแฟนหนุ่มกัดใบหน้าจนเสียโฉม ที่ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุไว้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายคดีไม่คืบ
โดย “กัน จอมพลัง” เผยว่า ในวันนี้ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกชายที่คบหากันได้แค่เพียง 2 เดือนทำร้ายด้วยการกัดที่ใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์ และไม่สามารถไปทำงานได้ เนื่องจากผู้เสียหายต้องใช้หน้าตาในการทำงานช่วงกลางคืน
และยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้เคยถูกกัดที่จมูกมาแล้ว 1 ครั้ง และยังถูกด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีญาติเป็นตำรวจ และยังเป็นผู้ติดตามทวงหนี้ให้นักการเมืองใหญ่ จนทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าคดีอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากตนเอง
“ในส่วนที่ว่าเป็นเรื่องของผัวเมียคนอื่นห้ามยุ่งนั้น เรื่องนี้ยิ่งต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่ไม่ควรปล่อยปบะละเลย พร้อมทั้งยังขอฝากถึงผู้หญิงทุกคนหากถูกทำร้ายร่างกายให้รีบแจ้งตำรวจเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง และฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าควรให้ความเป็นธรรมและช่วยเหลือประชาชน ไม่ควรบอกปัดความรับผิดชอบว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยา”
"กัน จอมพลัง" ยังบอกอีกว่า หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือตนเองได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลผู้เสียหาย และคุ้มครองความปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ น.ส.บี ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเองได้รู้จักกับอดีตแฟนหนุ่มผ่านการรับงานเอนเตอร์เทน และเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาแฟนหนุ่มได้ชักชวนตนเองให้ไปนั่งที่บ้านเช่าซึ่งเป็นห้องแถวใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี แต่ตนเองได้ปฏิเสธที่จะดื่มเหล้าเนื่องจากเหนื่อยจากการทำงานจนทำให้อดีตแฟนหนุ่มไม่พอใจ ผลักตนเองเข้าไปในห้องน้ำ
ก่อนจะใช้มือบีบคอและก้มลงกัดที่ใบหน้าอย่างรุนแรงหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตาจนทำให้มีเลือดไหล ซึ่งแม้จะพยายามขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งระหว่างก่อนเหตุฝ่ายชายยังมีท่าทีสะใจ
“ตอนนั้นตกใจมากเลยต้องบอกขอโทษเขาไปเพราะหวังว่าจะทำให้ใจเย็นลง และเมื่อได้จังหวะจึงรีบหนีเข้าไปในห้องน้ำซึ่งในครั้งแรกที่เห็นใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดจึงขอให้เขาช่วยพาไปโรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นอดีตแฟนได้วิดีโอคอลหาตำรวจระดับสารวัตร และอ้างว่าเป็นญาติกันซึ่งทางปลายสายเห็นว่าที่ใบหน้ามีแต่เลือด แต่ไม่ให้การช่วยเหลือใดๆ”
น.ส.บี ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ตนเองถูกอดีตแฟนกัดที่จมูกมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ในครั้งนั้นไม่ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.อานุภาพ คาดีวี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พานทอง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความตนเองได้ส่งตัวฝ่ายหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่พบว่ามีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม หากภายใน 20 วันบาดแผลยังคงอยู่ ผู้เสียหายสามารถเข้าไปพบแพทย์เพื่อขอใบรับรองแพทย์ใหม่ได้
“หลังเกิดเหตุได้มีการนัดหมายผู้ก่อเหตุเข้ามาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายแล้ว 1 ครั้ง และได้มีการตกลงให้ชำระค่าเสียหาย จำนวน 40,000 บาท แต่ผู้ก่อเหตุชำระค่าเสียหายเพียงแค่ 1 หมื่นบาท ขณะนี้จึงอยู่ในขั้นตอนระหว่างการไกล่เกลี่ย ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายอ้างว่าฝ่ายชายรู้จักกับตำรวจระดับสารวัตรนั้น ยืนยันว่าให้รู้จักจริงก็ไม่มีผลกับสำนวนคดี” พ.ต.ท.อานุภาพ กล่าว