xs
xsm
sm
md
lg

แน่นตลอดทาง ทล.108! คลื่นศรัทธารอกราบ “หลวงตาบุญชื่น” วันนี้ธุดงค์ผ่านปางมะผ้า มุ่งหน้าเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - นักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนชาวเมืองแม่ฮ่องสอนจดจ่อเฝ้ารอทำบุญกับ “หลวงตาบุญชื่น” ธุดงค์ฝ่าสายหมอกลมหนาว แน่นตลอดทาง ทล.108 วันนี้จาริกผ่านปางมะผ้ามุ่งหน้าเข้าเชียงใหม่ต่อ



หลังจาก “หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ” ได้เดินธุดงค์แสวงบุญเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางด้านอำเภอสบเมย เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นก็ธุดงค์ผ่านอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอขุนยวม จนกระทั่งเข้าสู่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนในช่วงเช้าของวันที่ 22 มกราคม 2566 ตามทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านเส้นทางป่าเขาสูงชัน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นจัดในช่วงกลางคืนและเช้า ส่วนในช่วงบ่ายก็ยังธุดงค์ฝ่าอากาศร้อนด้วยเท้าเปล่า โดยแวะพักจำวัดและปฏิบัติศาสนกิจตามโรงเรียนตามแนวเส้นทางนั้น

พบว่าพุทธศาสนิกชนชาวเมืองแม่ฮ่องสอนต่างใจจดใจจ่อรอที่จะร่วมสร้างบุญกุศลกับการเดินธุดงค์แสวงบุญของหลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ (พระอริยสงฆ์แห่งสยาม) ตลอดเส้นทาง และเมื่อเข้าพักจำวัดอยู่ที่โรงเรียนบ้านผาบ่อง ต.ผาบ่อง อ.เมืองฮ่องสอน ก็มีพุทธศาสนิกชนชาวผาบ่องและพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมาร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นและทำวัตรเช้ากับหลวงตากว่า 1,000 คน

และเมื่อนำศรัทธาชาวบ้านสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จ ได้ออกเดินธุดงค์จากโรงเรียนบ้านผาบ่อง ตำบลผาบ่อง มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ตามเส้นทางหลวงสาย 108 ก็มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน หลายพันคนที่ติดตามข่าวการเดินธุดงค์ของหลวงตาได้นำอาหารแห้งพร้อมด้วยน้ำเปล่า มาลัยดอกไม้ มานั่งรอร่วมทำบุญอยู่ริมถนน เป็นระยะทางยาวกว่า 15 กิโลเมตร บางคนมานั่งรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงเที่ยงแดดจะร้อนเพียงใดแต่ก็ไม่มีใครยอมลุกหนี หรือทิ้งโอกาสร่วมทำบุญให้หลวงตาเคาะศีรษะรับพร


ต่อมาเมื่อหลวงตาเดินธุดงค์ต่อเข้าจำวัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน ก็มีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 2,000 คนเดินทางมาร่วมทำบุญสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับหลวงตาบุญชื่น

สำหรับวันนี้ (23 ม.ค. 66) หลวงตาบุญชื่นจะธุดงค์จาก อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ผ่านอำเภอปางมะผ้า อำเภอปาย ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงของการเดินทางศิษยานุศิษย์ต่างห่วงกังวล เนื่องจากจะเริ่มธุดงค์ผ่านเส้นทางป่าเขาที่คดเคี้ยวมากขึ้นจนกว่าจะเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่และจะต้องใช้เวลาในการเดินธุดงค์นานกว่าที่ผ่านๆ มา จากนั้นจะขึ้นเหนือสุดที่จังหวัดเชียงราย ไปจังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดเลย จังหวัดอุดรธานี และวกกลับมาสู่จังหวัดนครพนม แผ่นดินเกิด

“หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท” ชื่อเดิม นายบุญชื่น อุ่นเทียมโสม เกิดที่บ้านเสาเล้า ตำบลโพนสวรรค์ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม ออกบวชเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่อปี 2552 จากนั้นได้ออกแสวงบุญตามแนวของพระป่าสายธรรมยุต เดินธุดงค์ไปหลายที่ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ได้ตั้งมั่นจาริกธรรม เดินธุดงค์ แบบค่ำไหนนอนนั่น ตลอดอายุการบวชกว่า 12 ปี ท่านไม่ได้จำวัดอยู่กับที่วัดเลย หลังออกพรรษาทุกปีจะออกจาริกธุดงค์ ไปมาแล้วเกือบทั่วประเทศ ที่สำคัญจะไม่รับบริจาคปัจจัย เงินทองใดๆ จะรับเพียงน้ำดื่ม อาหารเท่านั้น และสิ่งของที่ได้รับมานั้นก็ยังนำไปแจกจ่ายต่อแก่โรงเรียนหรือชุมชนที่ขาดแคลนที่ต้องธุดงค์ผ่านด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น