สระแก้ว - กรมทหารพรานที่ 13 กองกำลังบูรพา สนธิกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครองดักรวบขบวนการค้า จยย.ข้ามชาติขณะกำลังขนย้ายออกจากแนวชายแดนสระแก้ว จับ 1 คนไทย 1 กัมพูชา ยึดของกลาง 8 คัน ตั้งข้อหาร่วมกันพยายามนำ จยย.ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 จัดกำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 1305 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอรัญประเทศ โดยนายสำรวย แก้วประสิทธิ์ กำนันตำบลป่าไร่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว (ชปข ) กกล.บูรพา ออกลาดตระเวนเข้มป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งขายกัมพูชา
โดยเฉพาะบริเวณช่องทางธรรมชาติ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนย้ายรถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมายออกไปประเทศกัมพูชา
จากการลาดตระเวนได้ตรวจพบรถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยจอดอยู่ในสวนปาล์ม หลังโกดังในพื้นที่ ม.8 ห่างถนนลูกรังสายบ้านป่าไร่ใหม่-ถนนศรีเพ็ญ และอยู่ห่างชายแดนกัมพูชาประมาณ 500 เมตร โดยมีกลุ่มบุคคลกำลังขนย้ายรถจักรยานยนต์หลายคันลงจากรถตู้ทึบรถคันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมแต่กลุ่มบุคคลที่คาดว่าเป็นชาวกัมพูชาประมาณ 5 คนได้พากันทิ้งรถจักรยนต์วิ่งหลบหนีฝ่าความมืดกลับไปฝั่งกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ 1 คน คือ นายเนง เทีย อายุ 19 ปี ซึ่งไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย
และจากการตรวจสอบภายในรถพบ นายอนุพงศ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.คลองลึก พร้อมนายเนง เทีย ชาวกัมพูชา พร้อมยึดกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คันที่ถูกจอดทิ้งบริเวณท้ายรถ
เบื้องต้น นายอนุพงศ์ อ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ขนรถจักรยานยนต์มาส่งที่แนวชายแดนป่าไร่ เพื่อส่งขายในกรุงเทพฯ โดยได้ค่าจ้างจำนวน 10,000 บาท
สวนทางกับคำให้การของ นายเนง เทีย ชาวกัมพูชา ที่ยอมรับสารภาพว่าตนเองและพวกรวม 5 คนได้รับการว่าจ้างจาก นายอนุพงศ์ ให้มาขนย้ายรถจักรยานยนต์บนรถตู้ทึบจำนวน 8 คัน ข้ามเขตไปฝั่งกัมพูชา โดยได้ค่าจ้างคนละ 200 บาท ส่วนพรรคพวกอีก 4 คนวิ่งหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหา นายอนุพงศ์ และนายเนง เทีย "ร่วมกันพยายามนำรถ จยย.ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร" และนายเนง เทีย ถูกตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว (กัมพูชา) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกคดี
