พิจิตร - สภาเกษตรฯ พิจิตรรวมกลุ่มผู้ปลูกฟื้นส้มโอท่าข่อยได้ผล..พบตรุษจีนขายดิบขายดี ชาวไทยเชื้อสายจีนแห่ซื้อไหว้เจ้า-ไหว้บรรพบุรุษ แถมพัฒนาคุณภาพถึงขั้นเป็นสินค้าส่งออกราคาพุ่งถึง กก.ละ 20 บาท
นายศุภเดช แสนภูมินิเทศ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร และ เรืออากาศตรี บุญเกิด มีทวี ผู้จัดการบริษัท เอ็ม.ที.ฟรุ๊ต โปรดักส์ หมู่ 3 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ลงพื้นที่ดูสถานการณ์ผู้ปลูกส้มโอท่าข่อยของสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ที่รวมกลุ่มกันอนุรักษ์ส้มโอท่าข่อย ซึ่งเป็นส้มโอพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในคำขวัญ ว่า “รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน” และเคยประสบปัญหาราคาตกต่ำเหลือลูกละ 5-6 บาท จนเกษตรกรบางส่วนโค่นทิ้งกันทั้งสวนมาแล้ว
พบว่าก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คือ เทศกาลตรุษจีน วันจ่าย หรือวันตือเส็ก จะตรงกับวันที่ 20 ม.ค. 66, วันไหว้จะตรงกับวันที่ 21 ม.ค. 66 ปรากฏว่าส้มโอท่าข่อยในพื้นที่จังหวัดพิจิตรถูกกว้านซื้อเพื่อนำไปขายเป็นผลไม้ไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เรืออากาศตรี บุญเกิด มีทวี ผู้จัดการบริษัท เอ็ม.ที.ฟรุ๊ต โปรดักส์ กล่าวว่า ส้มโอท่าข่อยที่พ่อค้าคนกลางซื้อไปขายเพื่อใช้เป็นผลไม้ไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษส่วนใหญ่เน้นส้มผิวสวย แก่ไม่จัด คุณภาพและรสชาติความหวานจึงยังไม่อร่อยอย่างเต็มที่ แต่เมื่อขายได้เกษตรกรก็ยอมขายเพราะได้ราคา
แต่ในส่วนของล้งรับซื้อส้มโอท่าข่อยเพื่อการส่งออกจะเปิดรับซื้ออย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ม.ค. 66 ถึงเดือน มิ.ย. 66 โดยมีเป้าหมายรับซื้อส้มโอท่าข่อยที่ต้องมาจากกลุ่มเกษตรกรจากสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตรเท่านั้น เนื่องจากได้มาตรฐานการปลูกและผลผลิตที่ได้มีคุณภาพตามเกณฑ์ จึงให้ราคารับซื้อสูงถึงกิโลฯ ละ 20 บาท
โดยปีนี้มีเป้าหมายรับซื้อ 30 ตู้คอนเทนเนอร์ โดย 1 ตู้มีปริมาณ 17,000 กก. หรือรวม 510,000 กก. คิดเป็นเม็ดเงินที่จะตกถึงมือเกษตรกรประมาณ 510,000 กก. x 20 บาท = 10,200,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้พยายามให้คำแนะนำว่าเกษตรกรควรรวมกลุ่มและช่วยกันตัดส้มโอท่าข่อยเพื่อให้ได้คุณภาพ และลดรายจ่ายในการจ้างหรือให้พ่อค้าคนกลางมาตัดเอง ซึ่งเขาก็คิดค่าตัดส้มโอท่าข่อยในราคาค่าแรงกิโลฯ ละ 3-5 บาท แถมยังตัดแบบสุกเอาเผากิน ซึ่งบ่อยครั้งก็ตัดส้มอ่อนไปขาย ไม่ได้ส้มโอท่าข่อยที่แก่จัดจึงทำให้ได้ส้มโอท่าข่อยรสขมและเสียชื่อเสียงอีกด้วย
ด้านนายศุภเดช แสนภูมินิเทศ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สภาเกษตรกรพิจิตรทำหน้าที่รวมกลุ่มให้เกษตรกรและให้องค์ความรู้ด้านวิชาการ-ด้านการตลาด เพื่ออนุรักษ์ส้มโอท่าข่อยผลไม้พันธุ์พื้นเมืองของพิจิตรให้ยังคงอยู่ รวมถึงพัฒนาคุณภาพจนถึงวันนี้ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควรและจะเดินหน้าพัฒนารวมกลุ่มให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอท่าข่อยต่อไป
น.ส.กาญจนา คล้ายผูก อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 9 ต.ดงกลาง อ.เมือง จ.พิจิตร หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอท่าข่อยบนพื้นที่ 9 ไร่ กล่าวว่า จุดเด่นของส้มโอท่าข่อย คือสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีบนภูมิประเทศของจังหวัดพิจิตร เมื่อออกลูกออกผลแก่แล้วสามารถปล่อยให้อยู่คาต้นได้นานถึง 11 เดือนโดยไม่ต้องรีบตัด ทำให้เลือกเวลาตัดส้มโอท่าข่อยในช่วงที่ได้ราคาตามต้องการ
“ส้มโอท่าข่อยจะอร่อยรสชาติหวานอมเปรี้ยวก็ต่อเมื่อผ่านฤดูหนาวไปแล้วจะกินอร่อยมาก ส่วนของผู้บริโภคหรือพ่อค้าคนกลางที่ซื้อส้มโอท่าข่อยไปสามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิปกติ ยังเก็บได้นานนับเดือน แบบยิ่งเก็บไว้นานยิ่งอร่อย จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบันนี้”
