“ลุงป้อม” มาแล้ว ลงพื้นที่สมุทรสงคราม ตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง

สมุทรสงคราม - "พล.อ.ประวิตร" ลงพื้นที่สมุทรสงคราม ติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หวังสร้างความอยู่ดีกินดีให้ประชาชน มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคพลังประชารัฐ ติดตามใกล้ชิด

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ปัญหาคุณภาพน้ำ และความก้าวหน้าโครงการแก้มลิงทุ่งหิน โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม น.ส.สุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้ประชาชนในจังหวัด

ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดสมุทรสงคราม มีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำทะเลหนุนสูง เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ประมง และที่อยู่อาศัยของประชาชนบ่อยครั้ง อีกทั้งจังหวัดไม่มี แหล่งเก็บกักน้ำจืดขนาดใหญ่ โครงการแก้มลิงทุ่งหิน มีเนื้อที่ประมาณ 2,623 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำหลาก และเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝน ในพื้นที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และพื้นที่อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ และเป็นแหล่งศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน ซึ่งในการดำเนินงานโครงการดังกล่าวได้มีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญในการใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

จากนั้น พบปะพี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการจัดการทรัพยากรน้ำในทุกๆ ด้าน ทั้งการพัฒนา การฟื้นฟูแหล่งน้ำ และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และคุณภาพน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืนที่จะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการสร้างความอยู่ดีกินดีของประชาชน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำโดยเร็ว รวมถึงช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน และขอให้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล เราต้องการให้จังหวัดสมุทรสงครามมีน้ำใช้ตลอดปี

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า จะอยู่ร่วมกัน พัฒนาร่วมกัน เพื่อให้ชาวสมุทรสงครามลดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง มีน้ำพอเพียงใช้อย่างแท้จริง รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ประชาชนนั้นได้อยู่ดีกินดี โดยเรื่องของน้ำเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐในการทำให้ทุกคนได้มีน้ำอุปโภคบริโภค ใช้อุดมสมบูรณ์ ดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น โดยข้าราชการทุกคนจะต้องร่วมมือกับประชาชน จะต้องทำทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ฝากพี่น้องชาวสมุทรสงครามว่า พรรคพลังประชารัฐจะทำทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้พัฒนารุ่งเรืองขึ้นต่อไป

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นที่มารอต้อนรับ โดยประชาชนได้นำดอกไม้มามอบให้และขอเซลฟี่กับ พล.อ.ประวิตร โดยมี น.ส.สุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม และนายนพพล ธนิกุล บุตรชาย น.ส.สุกานดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสมุทรสงคราม พรรคพลังประชารัฐ ได้มารอต้อนรับ 

โอกาสนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้ากราบสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสมุทรสงคราม และกราบนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ก่อนที่จะติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักและระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองสมุทรสงคราม ระยะที่ 1 เพื่อบรรเทาน้ำท่วมในเขตเมือง บริเวณท่าน้ำข้างวัดเพชรสมุทรวรวิหาร โดยมีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ชี้แจงวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน พร้อมของบประมาณก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำหลัก วงเงิน 950 ล้านบาท ประกอบด้วย คันป้องกันน้ำท่วม คลองระบายน้ำ ท่อระบายน้ำหลัก และประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำหลัก ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร รับฟัง และบอกว่า “ให้ทำ”

ด้าน ดร.สุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้า โครงการแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ในแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่ 1.การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแก้มลิง โดยการขุดลอก ปรับปรุงและก่อสร้างอาคารประกอบ 2.การปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทน 3.การปรับปรุงถนนทางเข้าแก้มลิง 4.การศึกษาออกแบบภูมิทัศน์ และ 5.การปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาพื้นที่แก้มลิง เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝนและกักเก็บน้ำได้ประมาณ 8 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 3,000 ไร่ รวมทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ

ดร.สุรสีห์ กล่าวอีกว่า ช่วงปี 61-65 พื้นที่ จ.สมุทรสงคราม มีผลสำเร็จในการขับเคลื่อนแผนงาน โครงการ จำนวน 175 แห่ง พื้นที่รับประโยชน์ 6,670 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,158 ครัวเรือน เพิ่มปริมาณน้ำได้ 2 แสน ลบ.ม. และก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งระยะทาง 5,564 เมตร ขณะที่ จ.สมุทรสาคร ปี 61-65 มีผลการขับเคลื่อนแผนงาน โครงการ จำนวน 348 แห่ง/บ่อ พื้นที่รับประโยชน์ 42,748 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 50,361 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 6,343 ไร่ ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งระยะทาง 7,288 เมตร และในแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 66 มีจำนวน 27 โครงการ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะสามารถเพิ่มความจุกักเก็บ 1.2 แสน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 3,269 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 7,676 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 12,225 ไร่