ขณะนี้ พบว่า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเชียงราย ว่าเริ่มกลับมาคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกครั้ง หลังจากซบเซาจากโควิดมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดเริ่มมีชาวตะวันตกมาท่องเที่ยว ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็เริ่มปรากฏให้เห็นตามสถานที่ต่างๆ
นักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนใหญ่เดินทางเข้าไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ เฉพาะเชียงราย ชาวจีนยังคงนิยมไปเที่ยววัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย
ขณะนี้วัดร่องขุ่นมีการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ภายในวัดเพิ่มเติมมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์สวนโชคลาภ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หอพระพิฆเนศเทพแห่งความสำเร็จ ฯลฯ และล่าสุดกำลังก่อสร้างถ้ำศิลป์ (Cave of Art) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเชียงราย เช่น วัดร่องเสือเต้น หรือวัดสีน้ำเงิน ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนเริ่มเดินทางไปเยือนมากกว่าเดิม
อาจารย์เฉลิมชัยยืนยันว่า ภายในถ้ำของวัดร่องขุ่นมีความสุดยอดอยู่ และจะเปิดอย่างเต็มตัวช่วงปลายเดือนมกราคม 66 นี้ อนุญาตให้เข้าแถวชมได้คนละประมาณ 10 นาที ภายในมีเพลงบรรเลงอย่างพร้อมสรรพและประติมากรรมภายในก็ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ออกแนวแฟนตาซีเล็กน้อย แฝงความลี้ลับไว้หลากหลาย มีทั้งทุกขภูมิ ขุมนรก เมื่อพ้นไปแล้วก็จะเข้าประตูไปสู่พระนิพพานลักษณะเป็นการออกมาจากความอึดอัดไปสู่ความโล่งและสบายใจ
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ได้ย้ำระหว่างการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมรองรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน ว่า หลังจีนเริ่มเปิดประเทศให้ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา จะทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่ง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่เป้าหมายอันดับต้น ที่นักท่องเที่ยวจีนค้นหาในอินเทอร์เน็ต ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวกระจายถึงประชาชนทุกกลุ่มผ่านการท่องเที่ยว
ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต้องบริการให้เกิดความประทับใจ ระบบสาธารณสุขและการรักษาพยาบาลต้องพร้อมทั้งบุคลากร และอุปกรณ์ ให้บริการอย่างเท่าเทียม ด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า น้ำประปา และน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องเพียงพอต่อการให้บริการ
ในด้านความปลอดภัย ต้องคอยอำนวยความสะดวกไม่ให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวทั้งในสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงการป้องกันการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และการป้องกันอาชญากรรมในทุกพื้นที่ รวมไปถึงต้องให้ความสำคัญต่อการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งแนวทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอันตรายผ่านป้ายสื่อสารภาษาจีนในแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญ
ปัจจุบันอำเภอปายมีความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ มีโรงแรมที่พัก 251 แห่ง ร้านอาหาร 33 แห่ง สถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จำนวน 97 แห่ง และมาตรฐาน SHA+ จำนวน 37 แห่ง มีรถโดยสารประจำทาง ขาเข้า 16 เที่ยวต่อวัน และขาออก 15 เที่ยวต่อวัน และมีมัคคุเทศก์/ล่ามภาษาจีน 20 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในแม่ฮ่องสอนส่วนใหญ่ จะพำนักคราวละ 5-7 วัน ใช้จ่ายคนละประมาณ 25,000-50,000 บาท