กาญจนบุรี - พบรอยเสือโคร่งเพิ่มอีก 1 จุด รวม 3 จุด จนท.ตั้งกล้องดักถ่ายแล้ว หลังชาวบ้านพบเสือโคร่งเดินอยู่ที่บริเวณชายป่าทางเดินเข้าไร่มันสำปะหลัง ท้องที่บ้านท่ากะทิ หมู่ 6 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากกรณีชาวบ้านพบเสือโคร่งเดินอยู่ที่บริเวณชายป่าทางเดินเข้าไร่มันสำปะหลัง ท้องที่บ้านท่ากะทิ หมู่ 6 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้บูรณาการร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรากฏว่า พบรอยเท้าเสือโคร่งขนาดใหญ่ คาดว่าอายุประมาณ 7-8 ปี
ต่อมา นางประนอม เสงี่ยมไพศาล แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า วันที่ 6 ม.ค.2566 เวลา 04.00 น. พบเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว วิ่งตัดหน้ารถยนต์ของตน เสือตัวดังกล่าวมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ป่าหลังมหาวิทยาลัยมหิดล โดยเห็นลวดลายเสือโคร่งบริเวณใบหน้าอย่างชัดเจน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบรอยเท้าเสือเดินไปตามขี้เถ้าแนวกันไฟบนป่าภูเขาหลังมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พิกัด 47P 0516519E 1560633N โดยรอยเท้าเสือโคร่งมีขนาดความกว้าง 10 ซม. ยาว 13 ซม. ระยะห่างระหว่างการก้าว 120 ซม.
จากนั้นมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขต กาญจนบุรี ได้ประกาศเตือนนักศึกษาลงในเพจ Mahidol University Kanchanaburi Campus ห้ามบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลีกเลี่ยงเส้นทางการเข้าใช้พื้นที่ป่าบริเวณรอบมหาวิทยาลัย จนกว่าจะมีการพิสูจน์ทราบชัดเจนจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่งานกายภาพและสิ่งแวดล้อม นายธีรศักดิ์ ศรีสันต์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-7165-0388
ล่าสุด วันนี้ (8 ม.ค.) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย จนท.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี จนท.ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) จนท.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เจ้าหน้าทีอุทยานแห่งชาติไทรโยค จนท.สายตรวจปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จนท.องค์การแพนเทอรา ประเทศไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
ได้ร่วมกันตรวจสอบรายงานการพบร่องรอยเสือโคร่งนอกพื้นที่อนุรักษ์ บริเวณบ้านท่ากะทิ บ้านทับศิลา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และบริเวณมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี โดยประชุมเหตุการณ์และวางแผนการดำเนินงานเพื่อสำรวจ ตรวจสอบจุดที่พบร่องรอยเสือ
จากนั้นเข้าตรวจสอบร่องรอยเสือที่พบ บริเวณบ้านท่ากะทิ บ้านทับศิลา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร่วมกับผู้นำชุมชน และชี้แจงทำความเข้าใจกับชุมชน ซึ่งรอยเท้าเสือโคร่งที่พบบริเวณดังกล่าวนั้นมีขนาดความกว้างของอุ้งตีน 10 ซม. จำนวน 5 รอย ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อระหว่างไร่ของชาวบ้านกับป่าธรรมชาติ (ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 โดยศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุได้ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าบริเวณที่พบร่องรอยดังกล่าว เพื่อติดตามเสือโคร่งตัวดังกล่าวต่อไป
จากนั้นเข้าตรวจสอบร่องรอยเสือที่พบ บริเวณมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ทางลงไปที่ว่าการอำเภอไทรโยค โดยร่วมกับผู้นำชุมชน และชี้แจงทำความเข้าใจกับชุมชน นำโดย นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่พบรอยเท้าเสือโคร่งบนกองขี้เถ้าแนวกันไฟ แต่ไม่สามารถวัดขนาดได้ มีทิศทางมุ่งหน้าจากถนนไปตามแนวกันไฟ และร่องรอยได้หายไปบริเวณที่เป็นหิน
ซึ่งเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมหิดลได้ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าบริเวณดังกล่าวแล้ว จึงได้ทำการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อขอทราบบริเวณที่ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จากนั้นได้ร่วมกับองค์การแพนเทอรา ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าในบริเวณที่คาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวจะเคลื่อนที่ผ่าน
ต่อมา เวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) แจ้งว่า ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านวังสิงห์ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค พบรอยเท้าขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกับเสือโคร่ง บริเวณรอยต่อระหว่างไร่มันสำปะหลังกับป่าธรรมชาติ จึงได้ทำการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) และเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ร่วมกับผู้นำชุมชน ทำการตรวจสอบรอยเท้าดังกล่าว พบว่าเป็นรอยเท้าเสือโคร่ง ขนาดความกว้างของ 10 ซม. จำนวนมากกว่า 5 รอย อยู่บนกองขี้เถ้าแนวกันไฟ โดยมีทิศทางเดินลัดเลาะบริเวณรอยต่อระหว่างไร่มันสำปะหลังกับป่าธรรมชาติ จึงได้ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าในบริเวณที่คาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวจะเคลื่อนที่ผ่าน
เจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และองค์การแพนเทอรา ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าบริเวณที่คาดว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวจะเคลื่อนที่ผ่าน ตั้งแต่วัดถ้ำเสือดาว ถึงสำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ จนกระทั่งเวลา 20.00 น.จึงแล้วเสร็จ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หน.เขตสลักพระ กล่าว