พ่อค้าริมหาดชะอำวอนนักท่องเที่ยวพูดเรื่องจริง หลังโพสต์ทำเมืองท่องเที่ยวเสียหาย

เพชรบุรี - ผู้ประกอบการหาดชะอำ วอนนักท่องเที่ยวออกมาแก้ข่าว และพูดเรื่องจริง หลังโพสต์ทำเมืองท่องเที่ยวเสียหาย

วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaloemphan Suttisan ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า ...แย่มากเช่าผ้าใบตอน 6 โมง ก็ถามแล้วว่านั่งได้ถึงกี่โมงบอกได้ยันเค้าดาว ผมก็วางของที่ซื้อจากตลาดชะอำมา ยังไม่ได้กินสักอย่าง วางใว้ที่โต๊ะเอาเสื้อคลุมใว้ แล้วเดินไปหาของกินที่ถนนริมหาด ประมาณ 1 ทุ่มกลับมาที่โต๊ะ เอาของกินวางที่โต๊ะแล้วเดินไปเซเว่น

ซึ่งของตอนไปวางยังอยู่ครบ พอออกจากเซเว่น ไม่ถึง 10 นาที เก็บของทิ้งเรียบ เอาเสื้อไปวางที่อื่นด้วย พอกลับมาถึงโต๊ะก็ถามว่าใครเป็นคนเก็บ เจ้าของผ้าใบบอกเห็นไม่มีคนเลยเก็บ (แล้วผมจะเอาเสื้อวางทับใว้ทำไมถ้าผมกลับแล้ว?) คุยไปคุยมา คืนมาค่าส้มตำ 50 บาทแต่ของที่วางไว้หลายร้อย ของกินทั้งนั้นแย่มาก มาชะอำบ่อย เพิ่งจะมาเจอแบบนี้..... หลังโพสต์ได้เผยแพร่ออกไป ได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อว่าผู้ประกอบการและแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการเตียงผ้าใบเป็นอย่างมาก

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายพิน ลังสะอาด อายุ 60 ปี ผู้ประกอบการเตียงผ้าใบ ล็อตที่ 59 ชายหาดชะอำเหนือ อ.ชะอำ เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นวันสิ้นปี ได้มีนักท่องเที่ยวชายหญิง อายุประมาณ 30 ปี 2 คน ขับรถยนต์กระบะสีขาว 4 ประตู ป้ายทะเบียน จ.ราชบุรี เข้ามาจอดที่เตียง มานั่งที่เตียงของตนเพื่อมาเคานต์ดาวน์ พร้อมถือส้มตำ และอาหารอื่นๆ อีกจำนวนหลายร้อยบาทวางไว้ที่โต๊ะนำเสื้อคลุมสีขาวคลุมส้มตำเอาไว้ ก่อนเดินออกไปร้านสะดวกซื้อแป๊บเดียว พอกลับมาแล้วไม่เจออาหารบนโต๊ะที่วางไว้ จังหวะนั้นตนได้กลับบ้านไปอาบน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นตนกลับมา เห็นที่โต๊ะมีเพียงเสื้อ 1 ตัว กับส้มตำ 1 จานที่กินแล้ววางอยู่เท่านั้น แต่ไม่เห็นนักท่องเที่ยว 2 คน จึงคิดว่านักท่องเที่ยวคงกลับไปแล้วและลืมเสื้อไว้ที่โต๊ะ จึงนำจานส้มตำที่กินแล้วทิ้งใส่ถังขยะ แล้วเก็บรักษาเสื้อไว้ให้นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายได้มาต่อว่าโต้เถียงกับตนว่า ของมีหลายอย่างราคาหลายร้อย อีกทั้งยังต่อว่าตนว่าถ้าไปไหนจะต้องเอาล้อรถไปวางจองโต๊ะไว้ที่เตียงด้วยหรือเปล่า ซึ่งตนฟังแล้วเป็นคำพูดที่หนักเกินไป หลังจากที่นักท่องเที่ยวโพสต์ไป ได้สร้างความเสียหายให้แก่สถานที่ท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก

จากนั้นนักท่องเที่ยวได้ขอเงินค่าส้มตำ จำนวน 50 บาทคืน ตนก็ยอมจ่ายให้ไป และไม่อยากมีปัญหา นักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายได้นั่งอยู่ที่เตียงยันเคานต์ดาวน์กว่าเที่ยงคืนก่อนขับรถกลับไป หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยากให้เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ตนทำอาชีพนี้มาหลายสิบปีแล้ว ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เพิ่งจะมาเจอครั้งนี้เป็นครั้งแรก จึงอยากให้นักท่องเที่ยวออกมาแก้ข่าว พูดความจริง เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวรายอื่นเข้าใจผิด และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรีเสียหาย