เชียงราย - ตม.เชียงรายตามแกะรอยสกัดจับ “พม่าขนพม่าเข้าไทย” ยกก๊วน..พบใช้กระบะขนมาเป็นขบวนถึง 3 คัน หนึ่งในนั้นขับนำทางเลี่ยงด่านตรวจออกจากแม่สาย เข้าเชียงราย มุ่งหน้าเชียงใหม่พร้อมสรรพ
วันนี้ (7 ม.ค. 66) พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชียงราย พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เทียนทอง ผกก.สส.ตม.5 มอบหมายให้ พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รอง ผกก.ตม.เชียงราย พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.เชียงราย และ ร.ต.อ.รัชภูมิ ฤทธิศร รอง สว.ตม.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.เชีงราย และ สส.ตม.5 คุมตัวชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 22 คน ซึ่งในนี้ทำหน้าที่เป็นคนขับอีก 3 คน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะที่ใช้ขนอีก 3 คัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
การจับกุมชาวต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองล็อตใหญ่กลุ่มนี้มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีเครือข่ายขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของนายต้น หรือ Sai Tain อายุ 28 ปี ชาวเมียนมา จะขนชาวเมียนมาจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วงบ่ายวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงได้นำกำลังออกสกัดกั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า 3 คัน ขับออกจาก อ.แม่สาย อ้อมไปทางถนนสายแม่สาย-เชียงแสน ก่อนมุ่งสู่ อ.เมืองเชียงราย เพื่อเลี่ยงด่านตรวจถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย และด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย แล้วขับไปตามถนนหมายเลข 1063 ซึ่งเป็นถนนเลี่ยงเมืองผ่าน ต.บ้านข้าวต้ม อ.เมืองเชียงราย
เจ้าหน้าที่เห็นตรงกับที่ได้รับแจ้งจึงได้เข้าสกัดรถทั้งหมดเอาไว้ จากการตรวจสอบพบรถคันแรกเป็นรถขับนำทาง ส่วนคันที่ 2-3 มีชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมานั่งอัดกันมาคันละ 9 คน และ 10 คน รวมทั้งหมดจำนวน 19 คน โดยเป็นชาย 9 คน หญิง 6 คน ที่เหลือเป็นเด็ก นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบคนขับพบว่าหนึ่งในนั้นมีนาย Sai ด้วย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารการเข้าออกเมืองของคนทั้งหมดก็พบว่าไม่มีเอกสารอย่างถูกต้องและช่วงนี้ยังมีการปิดชายแดนไทย-เมียนมาอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนาย Sai และพวกเอาไว้ พร้อมตั้งข้อหาทั้งหมดว่าเป็นชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกรณีนาย Sai และคนขับรถรวม 3 คน แจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า "ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม"
จากนั้นนำทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีและขยายผลไปถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ขนลำเลียงต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าได้หลบหนีเข้าเมืองโดยจ่ายเงินให้ผู้นำพาในจำนวนแตกต่างกันไปตั้งแต่รายละ 4,500-16,000 บาท เพื่อจะเดินทางไปหางานทำที่ จ.เชียงใหม่