xs
xsm
sm
md
lg

เข้าหน้าแล้ง ราคาข้าวเปลือกไม่กระเตื้อง! ชาวนาเมืองน้ำดำเปลี่ยนปลูกมันสำปะหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ช่วงฤดูแล้งปีนี้พื้นที่ปลูกข้าวนาปรังใน จ.กาฬสินธุ์ ถูกปรับเปลี่ยนหันมาปลูกมันสำปะหลังแทน
กาฬสินธุ์ - เข้าหน้าแล้งชาวนาเมืองน้ำดำพลิกผืนนาปรังหันไปปลูกมันสำปะหลัง เหตุดูแลง่าย ใช้ปุ๋ยน้อย ขณะที่ข้าวมีปัญหามาก ปุ๋ยราคาสูง เกิดโรคระบาด ทั้งราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ขณะที่ราคารับซื้อผลผลิตมันสำปะหลังขั้นต่ำกิโลกรัมละ 3 บาท ได้กำไรดีกว่าปลูกข้าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงฤดูแล้งปีนี้ เกษตรกรใน จ.กาฬสินธุ์ พบว่าชาวนาที่ทำนาปรัง ซึ่งได้รับน้ำจากคลองชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว เขต ต.นาเชือก ต.บัวบาน ต.ดอนสมบูรณ์ ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมาชาวนาจะปลูกพืชผักและทำนาปรังจำนวนมาก แต่ฤดูแล้งปีนี้ กลับพบว่ามีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง สลับกับทำนาปรังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งหมายถึงพื้นที่ข้าวนาปรังลดลงหลายร้อยไร่

นายสมคิด ภูถาดงา อายุ 51 ปี ชาวนาบ้านขาม ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ฤดูแล้งหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ ตนและเพื่อนชาวนาในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานจะเตรียมดิน ปรับพื้นที่ทำการเกษตร บางคนทำเกษตรผสมผสาน ปลูกข้าวโพด พืชผักสวนครัวและทำนาปรัง แต่การทำเกษตรฤดูแล้งปีนี้ พบว่ามีเพื่อนชาวนาหลายราย หันไปปลูกมันสำปะหลังจำนวนมาก เนื่องจากปลูกง่าย ดูแลง่าย ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้ง ไม่ต้องใช้น้ำ ใช้ปุ๋ยเคมีปริมาณน้อย และขายผลผลิตได้ราคาคุ้มค่ากว่าขายข้าวเปลือก

ถึงแม้ราคาข้าวเปลือกจะรับซื้อถึงกิโลกรัมละ 6-8 บาท ขณะที่ผลผลิตหัวมันสำปะหลัง ขายได้กิโลกรัมละ 3 บาท แต่ต้นทุนผลิตมันสำปะหลังต่ำกว่าปลูกข้าวนาปรัง และดูแลง่ายกว่าปลูกข้าว รวมทั้งการปลูกข้าวนาปรังใช้ต้นทุนสูงกว่ามาก จ้างรถไถ 2 รอบ ต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงข้าวสม่ำเสมอ ใช้ปุ๋ยเคมีหลายกระสอบ ซึ่งมีราคาสูงกระสอบละกว่า 1,000 บาท นอกจากนี้ยังเกิดโรคระบาด






ทำให้ต้นทุนผลิตสูง ไม่คุ้มค่า ชาวนาขาดทุนซ้ำซาก ซึ่งตนยังไม่นำข้าวเปลือกนาปีไปขาย เพราะกลัวขาดทุน เก็บไว้กินในครัวเรือน และขายในหมู่บ้านได้ราคาดีกว่า ภาพรวมการทำเกษตรหน้าแล้งปีนี้ชาวนาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงปรับเปลี่ยนจากทำนาปรัง ไปปลูกมันสำปะหลัง ได้กำไรจากการขายผลผลิตดีกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น