เชียงใหม่-เจ้าอาวาสวัดดังแม่ริม เชียงใหม่ เบี้ยวชี้แจงและนำเงินทำบุญของวัดมาคืนตามที่นัดหมาย หลังขนข้าวของล่องหนออกจากวัดพร้อมเงินกว่า3.2ล้านบาท ขณะที่เจ้าคณะอำเภอ เผยได้รับโทรศัพท์ติดต่อเข้ามายอมรับสารภาพแล้วว่าทำผิดพลาดไปเนื่องจากนำเงินไปลงทุน ซื้อสถานปฏิบัติธรรมที่ทางขึ้นดอยอินทนนท์ ขอโอกาสแก้ไขและนัดหมายใหม่วันที่27ธ.ค.65 ด้านชาวบ้านแฉตรวจสอบ พบความไม่ชอบมาพากลเพียบเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการใช้จ่ายเงินทำบุญของวัด
ความคืบหน้ากรณีพระครูสุนทรพัฒนสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระนอน(ขอนม่วง) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าคณะตำบลดอนแก้ว หายตัวออกจากวัดไปตั้งแต่คืนวันที่14ธ.ค.65 หลังจากที่ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านตรวจสอบพบว่าเงินทำบุญของวัดในบัญชีธนาคารหายไปกว่า3ล้านบาท ตลอดจนการบริหารจัดการภายในวัดที่ไม่โปร่งใสอีกหลายอย่าง โดยพยายามขอคำชี้แจงจากทางเจ้าอาวาสแล้วตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับคำตอบและเดินทางออกจากวัดไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมขาดการติดต่อไป กระทั่งล่าสุดทางเจ้าอาวาสได้ติดต่อมาว่าจะกลับมาที่วัดพระนอน(ขอนม่วง) และพูดคุยเคลียร์ปัญหากรณีที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันที่ 21 ธ.ค.65 เวลา13.00น.
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าช่วงบ่ายวันนี้(21ธ.ค.65) ที่วัดพระนอน(ขอนม่วง) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พระครูสิริอาภากร เจ้าคณะอำเภอแม่ริม พร้อมคณะพระผู้ปกครองอำเภอแม่ริม รวมทั้งนายมณเฑียร คูคำมี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่,ตัวแทนฝ่ายปกครองอำเภอแม่ริม,คณะกรรมการวัดพระนอน(ขอนม่วง),ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ประชุมหารือร่วมกันกรณีพระครูสุนทรพัฒนสิทธิ์ ที่หายตัวไปพร้อมเงินทำบุญของวัดกว่า 3 ล้านบาท และการบริหารจัดการภายในวัดที่ไม่โปร่งใส ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพระครูสุนทรพิพัฒน์ นัดหมายว่าจะกลับมาร่วมประชุมชี้แจงเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามปรากฏว่าทางพระครูสุนทรพิพัฒน์ ไม่ได้เดินทางมาตามที่นัดหมายแต่อย่างใด
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมดังกล่าวนี้ ทางเจ้าคณะอำเภอแม่ริม แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการโทรศัพท์ติดต่อมาจากทางเจ้าอาวาสวัดพระนอน(ขอนม่วง)ยอมรับว่าเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการเงินทำบุญของวัดจริงโดยทำผิดพลาดจากการนำเงินไปลงทุนซื้อสถานปฏิบัติธรรมในพื้นที่ใกล้เคียงดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังเร่งหาทางนำเงินมาคืนให้โดยเร็วที่สุด พร้อมนัดหมายว่าในวันที่21ธ.ค.65 จะกลับมาที่วัดเพื่อชี้แจงรายละเอียดทุกอย่าง อย่างไรก็ตามช่วงคืนที่ผ่านมาทางพระครูสุนทรพิพัฒน์ ได้โทรศัพท์มาแจ้งอีกครั้งว่า ในวันที่21ธ.ค.65 อ้างยังไม่สามารถเดินทางมาได้แล้ว และขอนัดหมายใหม่เป็นวันที่ 27ธ.ค.65 โดยในส่วนของกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นและการกระทำของพระครูสุนทรพิพัฒน์ มีความผิดหรือไม่อย่างไรนั้น จะต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนจะปลดพระครูสุนทรพิพัฒน์ออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะตำบลดอนแก้ว ไว้ก่อน พร้อมให้จำวัดที่อื่น แล้วจะเข้ามารักษาการแทน
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านและศรัทธาวัด บอกว่า ที่ผ่านมาให้โอกาสทางเจ้าอาวาสชี้แจ้งมาโดยตลอด หลังจากพบพิรุธเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการใช้จ่ายเงินทำบุญของวัด ทั้งเงิน3.2ล้านบาท ซึ่งทราบว่ามีการนำไปเก็บไว้เป็นส่วนตัว รวมทั้งการติดหนี้ค่าไฟฟ้ากว่า60,000บาท,ค้างจ่ายภาษีที่ดินของวัดกว่า 20,000บาท,ค้างเงินค่าจ้างงานก่อสร้างในวัดกว่า 20,000 บาท และที่ผ่านมาไม่เคยทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายของวัดเลย ทั้งนี้ที่ผ่านมาเคยพยายามขอคำชี้แจงมาตลอด แต่บ่ายเบี่ยงกระทั่งหายตัวออกจากวัดไป ซึ่งจากนี้ไม่ต้องการอะไรจากทางเจ้าอาวาสแล้ว แต่ขอให้นำเงินกลับมาคืนทั้งหมด จากนั้นขอให้ทางเจ้าอาวาสออกจากวัดไป ส่วนความผิดทางพระวินัยนั้น ขอให้ทางคณะสงฆ์ผู้ปกครองพิจารณา ขณะที่การดำเนินการตามกฎหมายในข้อหายักยอกทรัพย์หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบนั้น ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้านนายประทีป แสงอินทร์ ตัวแทนชุมชนหมู่5 บ้านพระนอน เปิดเผยว่า กรณีนี้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงปัญหามาหลายปีในเรื่องของการที่เจ้าอาวาสมีการนำเงินของวัดไปใช้ส่วนตัวจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรขึ้นมาสองคน ซึ่งคนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80 ปี ส่วนอีกคนก็ยังไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวนัก จึงทำให้เจ้าอาวาสยังสามารถเบิกเงินจากบัญชีของวัดไปใช้ได้ โดยชาวบ้านได้สืบจากหลักฐานทางด้านการเงินจนทราบว่ามีเงินมากกว่า 3.2 ล้านบาทที่เจ้าอาวาสนำไปใช้ โดยพละการ และล่าสุดมีเงินกฐินอีกมากกว่า 7แสนบาทเข้ามาที่วัด แต่คณะกรรมการเกรงว่าอาจจะมีการนำเงินไปใช้อีกถึงได้ตกลงกันให้คณะกรรมการได้ดูแลเงินจำนวนนี้ไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายครั้งชาวบ้านขอให้เจ้าอาวาสชี้แจงหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.65 พบว่าเจ้าอาวาสได้ขนข้าวของหนีออกไปจากวัด และจากนั้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.65 คณะกรรมการได้เชิญทางสำนักงานพระพุทธ ศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมประชุม และระหว่างนั้นทางเจ้าอาวาส ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าขอนัดหมายที่จะมาชี้แจงและนำเงินมาชดใช้คืนให้ในวันที่21ธ.ค.65 แต่สุดท้ายก็ไม่มา