ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.ภาค 2 รวบแก๊งโจรอ้างตัวเป็นตำรวจบุกบ้านหรูมัดมือ-เท้า ปล้นเงินเศรษฐีชาวจีน ก่อนแยกย้ายหลบหนีข้ามจังหวัด สารภาพได้รับว่าจ้างจากลูกพี่ให้ปล้นเงินที่เก็บไว้ในบ้านเศรษฐีที่มีมาก 200-400 ล้านบาท แต่สุดท้ายได้เงินเพียง 700,000 บาท ขณะตำรวจใช้เวลา 9 วัน ตามจับพร้อมของกลาง
วันนี้ (21 ธ.ค.) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารณชัย ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.ดำรงค์ เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งคนร้ายบุกเข้าบ้านหรูมัดมือ-เท้า ปล้นทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยจับกุมผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย นายสรนันท์ หรือเก็จ ประเทือง นายสุเทพ หรือเล็ก ธูปหอม นายเอกชัย หรือเอ นิ่มอนงค์ นายภัทธวัชร หรือรุจ ธรรมารักษ์ นายกฤษฎา หรือโอ๋ มีถม นายนฤนาท หรือขลุ่ย ชูจิตร และนายอัครพันธ์ หรือแฟงค์ ภูผา พร้อมของกลางรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 4 คัน ทองคำรูปพรรณ เครื่องกระสุน และเงินสดจำนวนหนึ่ง
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายนับ 10 คน พร้อมอาวุธปืนบุกเข้าไปในบ้านพักหรูแห่งหนึ่ง และได้จับเจ้าของบ้านซึ่งเป็นเศรษฐีชาวจีนมัดมือ-เท้า ก่อนบังคับให้เปิดตู้เซฟเอาเงินสดไปกว่า 7 แสนบาท และทองคำรูปพรรณหลายรายการ มูลค่ากว่าล้านบาท ก่อนขับรถยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมทีมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ประชุมวางแผนคลี่คลายคดี กระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุได้จำนวน 7 คน หลังกระจายกันหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ใน จ.สระแก้ว และฉะเชิงเทรา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างมาจากลูกพี่ที่ชื่อ นายตูน นายหมึก และนายโจ ให้จัดทีมเข้าปล้นบ้านชาวจีนซึ่งมีภรรยาเป็นคนไทย เนื่องจากเชื่อว่าเก็บเงินสดไว้ในบ้านประมาณ 200-400 ล้านบาท และหากพวกตนทำงานสำเร็จจะได้ค่าจ้างจำนวน 15 ล้านบาท
โดยกลุ่มคนร้ายได้วางแผนกันแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเข้าตรวจสอบทรัพย์สินผู้เสียหาย และได้ปล้นเอาเงินที่อยู่ในบ้านไปแบ่งกันกับผู้จ้างวาน แต่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้เงินเพียง 700,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนน้อย จึงได้แบ่งเงินกันเองตามสัดส่วนและแยกย้ายกันหลบหนีได้เพียง 9 วัน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลาง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาตัวผู้จ้างวานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป