เจ้าทุกข์อีกรายเข้าแจ้งความหลังสาวใหญ่โดนเชิดรถกระบะหนีเข้ากลีบเมฆ ต้องมาผ่อนกุญแจแทน

นครปฐม - โผล่อีกรายจากกรณีสาวใหญ่โดนเชิดรถกระบะหนีหายเข้ากลีบเมฆ และต้องมาผ่อนกุญแจแทน ล่าสุด หนุ่มบางเลน โดนหลอกเช่นกันในช่วงที่เดือดร้อนหนักเพราะโควิด เสียรถไป 1 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้โพสต์ระบายความในใจ หลังมีชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกันทำทีมาตีสนิททางเฟซบุ๊ก จนเจ้าตัวไว้ใจ ก่อนที่ฝ่ายชายจะออกอุบายขอยืมรถยนต์กระบะ และอ้างว่าจะเอาไปเปลี่ยนล้อแมกซ์ให้ แต่แล้วทั้งคนและรถกลับหายไปในกลีบเมฆ ไม่สามารถติดต่อได้ สุดท้ายต้องมาผ่อนกุญแจแทน

ล่าสุด หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารบางเลน นครปฐม และสื่อมวลชน ได้มีผู้เสียหายเพิ่มอีก 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสยาม เนตรแก้ว อายุ 44 ปี ที่อยู่ 77 ม.10 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม กล่าวว่า เมื่อช่วงที่โควิดระบาดหนักเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตนต้องหยุดทำงาน ไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้ จึงหันไปปรึกษานายวีรยุทธ หรือกุ้ง ที่เป็นเพื่อนสนิท และอยู่แถวบ้านว่าจะขอกู้เงินกับพ่อนายกุ้ง 1 หมื่นบาท โดยเอารถกระบะ หมายเลขทะเบียน ขจ 9643 นนทบุรี จำนำไว้ โดยบอกว่าอีก 15 วันจะมาไถ่คืน

โดยนายกุ้ง ตอบกลับมาว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ปล่อยเงินกู้แล้ว แต่มีเพื่อนปล่อยอยู่ จากนั้นนายกุ้ง โทร.หาเพื่อนคนดังกล่าวและได้พูดคุยตกลงเรื่องจะจำนำรถ จนเพื่อนนายกุ้งยินยอมและบอกให้นายกุ้ง ออกเงินให้ตนก่อน และถ่ายรูปรถส่งมาให้เพื่อเป็นหลักฐานการกู้เงินในครั้งนั้น ต่อมา ครอบครัวตนได้ติดโควิด จึงทำให้เกินกำหนดสัญญาที่ตกลงกันไว้ว่าอีก 15 วันจะมาไถ่รถคืน ทำให้เพื่อนนายกุ้ง ที่ปล่อยเงินกู้คิดดอกเพิ่มเป็น 2 หมื่นบาทรวมทั้งต้นทั้งดอก เป็น 3 หมื่นบาท

แต่ตนยอมตกลงจ่าย และให้นายกุ้งโทร.ไปหาเพื่อนเพื่อจะได้นำรถของตนมาให้ แต่นายกุ้ง ทำเป็นบ่ายเบี่ยงว่าเพื่อนจะนัดมาคืนตอนบ่าย จากบ่ายเป็นเช้าอีกวัน จนหนักเข้าโทร.ไปหานายกุ้ง ไม่รับสายอีกเลย ตนจึงตัดสินใจไปหานายกุ้ง ที่บ้านแต่ไม่เจอตัว จนมีพลเมืองดีแถวนั้นบอกว่านายกุ้ง เอารถของตนไปขายในจำนวนเงิน 4 หมื่นบาท และยังบอกอีกว่านายกุ้ง หนีไปอยู่ที่โคราชแล้ว และเมื่อวานได้เห็นข่าวที่มีผู้หญิงโดนนายกุ้งหลอก ตนจึงออกมาเปิดเผย และวันนี้ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อย