อุดรธานี - สสส.ร่วมกับจังหวัดอุดรธานี เปิดเวทีสาธารณะ ถกหัวข้อ “อุดรสร้างสุข รื่นเริงรับลมหนาว ปลอดเหล้า
ปลอดพนัน ปลอดภัย” เพื่อใช้ช่วงเวลาของเทศกาลฤดูหนาวรณรงค์ตอกย้ำสร้างค่านิยม การจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยวิถีชีวิตสุขภาวะ ปลอดเหล้า ปลอดพนัน และปลอดภัย อันจะนำไปสู่วัฒนธรรมการจัดงานเทศกาล ให้เป็นการจัดงานเชิงสร้างสรรค์ ปลอดอบายมุข และปัจจัยเสี่ยง
วันนี้ (14 ธ.ค. 65) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานอุดรสร้างสุข ปลอดเหล้า ปลอดพนัน ปลอดภัย และเวทีสาธารณะ หัวข้อ “อุดรสร้างสุข รื่นเริงรับลมหนาว ปลอดเหล้า ปลอดพนัน ปลอดภัย” ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับจังหวัดอุดรธานี เครือข่ายสื่อสุขภาวะลดปัจจัยเสี่ยง, บริษัท โฮมเคเบิ้ล ทีวี แอนด์ วิดีโอ 1990 และสถานีโทรทัศน์ Cable Channel37HD, สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.), มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) ได้จัดเวทีสาธารณะ หัวข้อ “อุดรสร้างสุข รื่นเริงรับลมหนาว ปลอดเหล้า ปลอดพนัน ปลอดภัย” เพื่อใช้ช่วงเวลาของเทศกาลฤดูหนาวรณรงค์ตอกย้ำสร้างค่านิยม การจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยวิถีชีวิตสุขภาวะ ปลอดเหล้า ปลอดพนัน และปลอดภัย อันจะนำไปสู่วัฒนธรรมการจัดงานเทศกาล งานรื่นเริง งานกาชาดและงานประจำจังหวัด ให้เป็นการจัดงานเชิงสร้างสรรค์ ปลอดอบายมุข และปัจจัยเสี่ยง
นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในฐานะประธานเปิดงานเวทีอุดรสร้างสุขฯ กล่าวว่า “การ จัดงานอุดรสร้างสุขฯ ครั้งนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งชาวอุดรธานีในฐานะเจ้าบ้าน และแขกที่มาเยือนเมืองแห่งนี้ ได้เล็งเห็นคุณค่าของจังหวัดอุดรธานี และร่วมกันยกระดับเมืองให้สู่นครสุขภาวะ โดยที่ผ่านมา จ.อุดรธานีได้มีการทำงานร่วมกับ สสส. และ สคล. ผลักดันให้การจัดงานบุญประเพณี งานเลี้ยง และงานกิจกรรมต่างๆ ของอุดรธานีปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ มาวันนี้เมื่อมีความชุกปัจจัยเสี่ยงการพนันเข้ามา จังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และเห็นเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกับ สสส. มรพ. และภาคีเครือข่าย เพื่อขยายผลการสร้างความรู้ให้ประชาชน ตระหนักและเท่าทันปัจจัยเสี่ยงทั้งเหล้า บุหรี่ และการพนัน
การควบคุมดูแลปัจจัยเสี่ยงในเรื่องนี้ซึ่งเข้าข่ายปัจจัยเสี่ยงประเภทเสพติด เราต้องทำคู่ขนานไปทั้งงานรณรงค์ให้ความรู้ และงานเยียวยาฟื้นฟูคืนคนที่เคยดื่ม เคยสูบ และเคยเล่น ได้ลด ละ เลิก เพื่อเป็นประชากรที่มีคุณภาพให้แก่ประเทศชาติ”
รศ.ดร.แล ดิลกวิทยรัตน์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. กล่าวว่า “สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้ขับเคลื่อนสร้างค่านิยมให้งานบุญประเพณีปลอดเหล้า ปลอดอบายมุข มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ ด้วยมีการหนุนเสริมและความร่วมมือที่ดีจากจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายสื่อในการขยายผล การสื่อสาร เพื่อสร้างทัศนคติและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดการขับเคลื่อน ‘พื้นที่สร้างสรรค์ ลดพื้นที่เสี่ยง เพื่อนำไปสู่นครแห่งสุขภาะ’ ไม่สามารถทำงานใน ‘เชิงเดี่ยว’ ได้ เพราะทั้งปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มีความซับซ้อน และท้าทายมากขึ้น การขับเคลื่อนงานต่อไปในอนาคตจึงต้องอาศัยการบูรณาการใน ‘เชิงระบบ’ ที่มีพื้นที่ มีภาคีทำงาน โดยมีภาคประชาสังคม ภาคราชการ และเอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายสื่อมวลชน เป็นกำลังสำคัญในการสานพลัง สื่อสารประเด็นสุขภาวะสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม”
สถานการณ์แนวโน้มภาพรวมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 34.0 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 28.0 ในปี 2564 อายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มครั้งแรกคือ 20.4 ปี สถานการณ์การบริโภคแอลกอฮอล์ในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความชุกของนักดื่มสูงสุดเป็นอันดับสอง คือ ร้อยละ 32.3 ในส่วนของการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตามงานเทศกาล/งานประเพณีในรอบปี พบว่ามีการเคยไปดื่มฯ ในสถานที่ดังกล่าวร้อยละ 59.4 ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นการได้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ฟรีจากงาน/ผู้จัดงาน (ร้อยละ 63.4)
ขณะที่สถานการณ์ภาพรวมการพนันปี 2564 โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน พบว่าคนไทยเล่นการพนันประมาณ 32.3 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2562 ทางด้านทัศนคติที่เกี่ยวกับการพนัน เห็นว่าการรายงานข่าวของสื่อมวลชน เช่น คนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 รวมถึงการตีข่าวเลขเด็ดจากเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้คนเล่นพนันเพิ่มขึ้นร้อยละ 74.3 การให้ข้อมูลความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพนันจึงมีความสำคัญมากเพื่อให้เห็นผลกระทบจากการพนันและมีแนวทางการป้องกันตนเองและคนในครอบครัวไม่ให้ติดพนัน
ด้านเวทีล้อมวงคุย “อุดรสร้างสุข งานรื่นเริงรับลมหนาว ปลอดเหล้า ปลอดพนัน ปลอดภัย” เพื่อถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนมุมมอง ยกระดับให้จังหวัดอุดรธานี เป็นนครสุขภาวะต้นแบบ โดย นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดอุดรธานี, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี, นายภาคภูมิ ปุผมาศ ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จ.อุดรธานี และนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้สะท้อนให้เห็นว่าการขยายการทำงานเพื่อยกระดับอุดรธานีสร้างสรรค์ ไปสู่นครสุขภาวะ ปลอดปัจจัยเสี่ยง ต้องเน้นการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ทดแทนพื้นที่เสี่ยง โดยมีกรอบการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และการจัดระเบียบเมือง หรือโซนนิ่งที่ชัดเจน เพื่อป้องกันเด็กเยาวชนไม่ให้เข้าไปเสี่ยงก่อนวัยอันควร
นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดอุดรธานีกล่าวว่า “การขับเคลื่อนงานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ จ. อุดรธานี มีความเข้มแข็งพอสมควรแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องการพนันประเภท ข. ซึ่งอยู่ในงานรื่นเริง จำเป็นต้องมีการควบคุม และขออนุญาตให้เล่นได้ ภายใต้ข้อจำกัดและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ที่ไม่ส่งเสริมให้มีแหล่งอบายมุขอันเป็นการมอมเมาเยาวชนและประชาชน จนทำให้ละเลยการประกอบอาชีพสุจริต นำไปสู่ปัญหาแาชญากรรมในอนาคต โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานออกใบอนุญาต และผู้เกี่ยวข้องได้ศึกษาข้อกำหนดอย่างละเอียด พบการฝ่าฝืนและละเมิดให้ดำเนินการทางกฎหมายทันที”
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี กล่าวว่า “เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงขอประกาศให้งานทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ห้ามจำหน่าย ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณงาน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามสูบบุหรี่ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และห้ามจัดให้มีการเล่น เข้าเล่น หรือพนันในการเล่นเพื่อเอาเงิน หรือทรัพย์สินอย่างอื่นๆ ในบริเวณจัดงาน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป”
นายวิโรจน์ พิพัฒน์ไชยศิริ กรรมการบริหาร บริษัท โฮมเคเบิ้ล ทีวี แอนด์ วีดีโอ 1990 จำกัด ในฐานะเครือข่ายสื่อสุขภาวะลดปัจจัยเสี่ยง และตัวแทนสื่อมวลชนท้องถิ่น จ.อุดรธานี กล่าวว่า “จังหวัดอุดรธานี จัดเป็นพื้นที่ที่มีต้นทุนการขับเคลื่อนงานพื้นที่ปลอดภัย ลดปัจจัยเสี่ยง ด้วยมีฐานการทำงานที่เข้มแข็งร่วมกัน เริ่มจากมี ผู้นำเมืองที่มีวิสัยทัศน์ และมีความตื่นตัวของภาคประชาชน ภาคราชการและกลุ่มธุรกิจ ที่พร้อมทำงานเพื่อสังคม ทางโฮมเคเบิ้ลฯ ในฐานะสื่อของอุดรธานี และพี่น้องสื่อมวลชนในพื้นที่ จึงพร้อมเป็นสื่อกลางที่ทำหน้าที่สื่อสารสุข เพื่อสร้างภูมิรู้ เป็นเกราะป้องกันปัจจัยเสี่ยงให้แก่ชุมชน และจะเป็นเรื่องดีถ้าความร่วมมือในครั้งนี้จะถูกสานต่อไปยังอนาคต”