เชียงใหม่ - นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงานและภาคส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ หารือและขอความร่วมมือทุกภาคส่วนผนึกกำลังคุมเข้มสกัดกั้นป้องกันเด็กถูกล่อลวงค้าประเวณีและล่วงละเมิดทางเพศ
วันนี้ (13 ธ.ค. 65) นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการโรงเรียน กำนัน มูลนิธิในพื้นที่ทุกแห่ง วางมาตรการ คุมเข้ม เน้นย้ำ ทุกหน่วยงาน ปฏิบัติหน้าที่ ใส่ใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น “ให้ระลึกเสมอว่าเด็กนักเรียนคือลูกหลานเรา” โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแล เด็กนักเรียน เยาวชน ตลอดจนพื้นที่นอกรั้วสถานศึกษา คือหมู่บ้าน ชุมชน ต้องลดปัจจัยเสี่ยงเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ กวดขัน เข้มงวด ปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีปรากฏข่าวว่ามีเด็กนักเรียนถูกล่อลวงค้าประเวณี
เบื้องต้นนายอำเภอกัลยาณิวัฒนาได้มีข้อสั่งการ ดังนี้ ด้านการป้องกันเด็กนักเรียนในโรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดภาครัฐ หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ หรือมูลนิธิ ที่มีหอพักทุกแห่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเด็กนักเรียน ซี่งผู้ปกครองนำมาฝากไว้กับโรงเรียน กินนอนอยู่ในหอพักประจำของโรงเรียน ปัจจุบันมีโรงเรียน 15 แห่ง รวมนักเรียน 2,329 คน (ชาย 1,210 หญิง 1,192 คน และมีโรงเรียนที่มีหอพักประจำ 10 แห่ง รวมนักเรียน 396 (ชาย 164 หญิง 232 คน) และมูลนิธิ 2 แห่ง ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ปกครองหอพักต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หอพักที่ต้องมีความปลอดภัย มีการแบ่งแยกหอพักชาย-หญิงชัดเจน มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งมีการกำหนดกฎหรือระเบียบสำหรับหอพักให้ชัดเจน มีการติดประกาศประชาสัมพันธ์บริเวณประตูเข้า-ออก ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่บริเวณหอพักนักเรียนอย่างเด็ดขาด ผู้ปกครองหอพักต้องไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการมั่วสุม หรือมีพฤติกรรมขายบริการทางเพศ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือสิ่งที่ผิดศีลธรรมจรรยา หรือกฎหมายบ้านเมืองในสถานที่ราชการ หรือสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด ให้สอดส่องดูแลอย่างต่อเนื่อง เรื่องใดที่เกินกำลังหรือความสามารถขอให้แจ้งอำเภอเพื่อประสานหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความช่วยเหลือ หากมีการกระทำผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน มาตรการป้องกันในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ลดปัจจัยเสี่ยง ให้หน่วยงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการออกตรวจตราจัดระเบียบสังคม ตรวจร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มสุรา ต้องไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างเด็ดขาด หากพบการกระทำความผิดต้องดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งแจ้งให้ส่วนราชการหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเครื่องดื่มที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ติดป้ายประกาศแจ้งเตือนตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตทะเบียนพาณิชย์หรือการควบคุมดูแลเรื่องการสะสมอาหารตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ในส่วนการตรวจสอบหอพัก ขอให้สถานศึกษาที่เป็นของรัฐให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายแนวทางการปฏิบัติของทางราชการ ตลอดจนหามาตรการแนวทางร่วมกันระหว่างสถานศึกษาืกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องที่ และผู้ปกครองนักเรียน สร้างความเข้าใจและความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครองตลอดจนสังคมในพื้นที่ ส่วนสถานศึกษาของเอกชนให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้แนะนำและตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่และรายงานผลการปฏิบัติให้อำเภอทราบด้วย
ด้านจุดเสี่ยงจุดล่อแหลม เช่น สถานที่สาธารณะต่างๆ ที่เป็นแหล่งมั่วสุม ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทำป้ายประกาศแจ้งเตือนหรือประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการมั่วสุมดื่มสุราหรือยาเสพติดในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ตลอดจนกำหนดห้ามมิให้เข้าไปในช่วงวิกาลเพื่อป้องกันการกระทำความผิดกฎหมายหรือการมั่วสุมของกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และขอให้ฝ่ายปกครองบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตราอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาตรการที่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว คือ การสร้างความเข้าใจแก่โรงเรียนและนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องเพศ ความผิดเกี่ยวกับเพศ และการสร้างความรู้สำหรับป้องกันตนเอง อำเภอได้ขอความช่วยเหลือจากสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดวิทยากรกระบวนการอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนในพื้นที่ทุกแห่ง โดยให้ผู้ปกครองท้องที่หรือผู้นำท้องที่มีส่วนร่วมโดยมีกำหนดระยะแรกระหว่างวันที่ 18 ถึง 22 ธันวาคม 2565 นี้
นอกจากนี้ นายอำเภอกัลยาณิวัฒนากล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้อำเภอจะเชิญสถานประกอบการที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาประชุมเพื่อชี้แจงขอความร่วมมือให้สถานประกอบการร้านค้าปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย พร้อมทั้งจะเชิญสถานประกอบการบ้านพักให้เช่าโฮมสเตย์หรือสถานที่หอพักเอกชนในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันเช่นเดียวกัน