วิกฤตเด็กวัดขาดแคลนถึงขั้นเจ้าอาวาสวัดใน จ.ฉะเชิงเทรา ต้องประกาศรับสมัครผ่านโลกออนไลน์

ฉะเชิงเทรา - วิกฤตผ้าเหลืองขาดคนดูแลหลังกระสังคมเปลี่ยน ค่าครองชีพสูง จนแม้แต่เด็กวัดยังต้องออกมาช่วยครอบครัวทำกิน ร้อนถึงเจ้าอาวาสวัดใน จ.ฉะเชิงเทรา ต้องประกาศรับสมัครเด็กวัดช่วยขับรถ ทำงานคอมพ์ เงินเดือน 8,000-10,000 บาท พร้อมที่พัก

จากกรณีที่ พระปลัดคณาธิป สนฺตจิตโต อายุ 34 ปี 13 พรรษา เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอบางน้ำเปรี้ยว และยังเป็นเจ้าอาวาสวัดอาคมสิทธาภรณ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้โพสต์ข้อความประกาศรับสมัครลูกศิษย์วัดในตำแหน่งคนขับรถผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

พร้อมระบุคุณสมบัติว่า ต้องเป็นคนขยัน มีความรับผิดชอบ อัธยาศัยดี และต้องขับรถและดูแลรักษารถได้ และหากมีความสามารถในการถ่ายรูปและใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะมีสวัสดิการทั้งห้องพักฟรี อาหารฟรี และได้รับเงินพิเศษจากการออกงาน รวมทั้งได้เงินเดือน 8,000-10,000 ขึ้นอยู่กับความขยันและความสามารถ

หลังโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ปรากฏว่า มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเพาะประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ในวันนี้ถึงขั้นขาดแคลนเด็กวัดจนต้องเปิดรับสมัครนั้น


วันนี้ (30 พ.ย.) พระปลัดคณาธิป สนฺตจิตโต เจ้าอาวาสวัดอาคมสิทธาภรณ์ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุเป็นเพราะขณะนี้ทางวัดมีพระจำพรรษอยู่เพียง 2 รูป และสามเณร 3 รูป ซึ่งในแต่ละวันพระต้องออกบิณฑบาต รวมทั้งรับกิจนิมนต์จึงจำเป็นต้องมีผู้ช่วยในการเดินทาง รวมทั้งจำเป็นต้องมีผู้ช่วยในการใช้งานคอมพิวเตอร์จึงได้ลงประกาศรับสมัครผู้ที่จะเข้ามาแบ่งเบาภาระในการดูแลวัด

"วัดแห่งนี้อยู่ลึกและอยู่ไกล จึงทำให้มีพระภิกษุเพียง 2 รูป จึงไม่เพียงพอต่อการทำงานเพื่อบูรณะวัด ส่วนการเปิดรับสมัครเด็กวัดเป็นเพราะขาดแคลนคนทำงานจริงๆ ไม่ใช่เพราะต้องการให้เกิดกระแส แลขณะนี้มีผู้เข้ามาสมัครแล้ว 3 คน แต่ทางวัดยังไม่ได้รับใคร และยังไม่มีผู้ที่ต้องการเข้ามาทำงานอย่างจริงจัง" เจ้าอาวาสวัดอาคมสิทธาภรณ์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ตลับ สาทภัย อายุ 79 ปี แม่ชีที่บวชอยู่ภายในวัด ทราบว่าที่ผ่านมาเคยมีผู้เข้ามาสมัครทำงานในตำแหน่งดังกล่าวแล้วประมาณ 5-6 คน ซึ่งตำแหน่งคนขับรถจะมีหน้าที่รับส่งพระออกบิณฑบาต และจะต้องตื่นตั้งแต่เช้าเวลาประมาณ 05.00 น. รวมทั้งจะต้องช่วยดูแลทำความสะอาดกุฏิ ศาลา และบริเวณวัดโดยรอบ

นอกจากนั้น ยังต้องขับรถนำสามเณรไปส่งโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร และในช่วงเย็นจะต้องสามเณรกลับ รวมทั้งขับรถรับส่งเจ้าอาวาสในกรณีที่มีกิจนิมนต์

“แต่ที่ผ่านมาคนขับรถแต่ละคนมักอยู่ได้ไม่นาน บางรายอยู่ได้เพียง 1-2 วันต้องลาออก สาเหตุอาจเป็นเพราะต้องกินนอนอยู่กับวัดจนทำให้ห่างเหินจากครอบครัว และในความเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าเงินเดือน 8 พันบาทไม่น่าจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในยุคสมัยนี้ หลายคนจึงอยู่ไม่ได้ และงานลักษณะนี้ต้องเป็นคนที่ไม่มีครอบครัว หรือคนโสดจึงจะสะดวก”


น.ส.ตลับ ยังบอกอีกว่า วัดแห่งนี้มารดาของตนเองคือ นางอบ สาทภัย ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วได้บริจาคที่ดิน จำนวน 6 ไร่ 3 งานให้ก่อสร้างวัดในปี 2543 เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา ขณะที่บรรยากาศภายในวัดพบว่าได้มีการจัดเตรียมขึ้นป้ายเพื่อจัดทำโครงการต่างๆ และป้ายประกาศนโยบายของวัด

และยังมีโครงการก่อสร้างโบสถ์ รวมทั้งพระประธานสูงที่สุดในโลก เพื่อให้วัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำอีกแห่งของ จ.ฉะเชิงเทราเนื่องจากมีทำเลติดแม่น้ำนครนายก ที่แยกสาขาออกมาจากแม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำปราจีนบุรี

นางวนิดา ชลารักษ์ อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า สาเหตุที่วัดแห่งนี้ต้องประกาศรับสมัครเด็กวัดในตำแหน่งคนขับรถเป็นเพราะการเดินทางของพระค่อนข้างลำบาก เนื่องจากพระจะขับรถเองนั้นไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านช่วยขับรถให้เพียงครั้งคราว เพราะแต่ละคนล้วนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบจึงทำให้ไม่คอยมีเวลาเข้ามาช่วยเหลือดูแลวัด

ส่วนสาเหตุที่วัดแห่งนี้เปลี่ยนเด็กวัดอยู่บ่อยครั้งเป็นเพราะเด็กวัดเองมีภาระทางครอบครัวที่ต้องช่วยกันทำมาหากินด้วย