เชียงใหม่ - ป.ป.ช.ภาค 5 แถลงผลงานดำเนินการป้องกันปราบปรามการทุจริต เผยปีนี้ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนรับร้องเรียนแล้วกว่า 800 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเท่าตัว กว่า 80% เป็นเรื่องการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างและเรียกรับผลประโยชน์ ขณะที่กรณีการสวมตัวทำบัตรประชาชนที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มีการยื่นร้องเรียนแล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการ
วันนี้ (30 พ.ย. 65) ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 5 พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาค 5 ทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดลำปาง, จังหวัดพะเยา, จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดลำพูน, จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ภาค 5 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาค 5
ทั้งนี้ นายสุชาติเปิดเผยว่า ภาพรวมในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตและเข้าขั้นตอนตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสิ้น 867 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีเรื่องที่เข้าสู่ขั้นไต่สวนข้อเท็จจริงจำนวน 365 เรื่อง พบว่าเป็นกรณีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างและเรียกรับผลประโยชน์กว่าร้อยละ 80 ซึ่งสาเหตุที่จำนวนเรื่องร้องเรียนเพิ่มมากขึ้นนั้น เชื่อว่ามาจากการตื่นตัวของประชาชนจากการที่ ป.ป.ช.รณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการสอดส่องตรวจสอบและแจ้งเหตุ
สำหรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตที่ผ่านกระบวนการจนชี้มูลความผิดและศาลมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งการป้องกันการทุจริตนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 17 เรื่อง มูลค่าความเสียหายต่อทางราชการรวมกว่า 126 ล้านบาท ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 5 จำนวน 2 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงราย 1 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพะเยา 1 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดน่าน 2 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดแพร่ 1 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำพูน 6 เรื่อง, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปาง 1 เรื่อง และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ 2 เรื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนกรณีการทุจริตและมีการชี้มูลความผิดของจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 เรื่องนั้น ได้แก่ กรณีการชี้มูลความผิดนายบุญยืน อนนท์สมิง ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับพวก 4 คน กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 11 ฉบับ และกรณีชี้มูลความผิด นายศิริพัฒน์ กาวิละ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพวก 7 คน กรณีเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นจากบริษัทเอกชน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาดูงาน อย่างไรก็ตามการชี้มูลความผิดทั้ง 2 เรื่องยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาล
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่ากรณีการตรวจสอบพบการทุจริตสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนที่ที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่นั้น มีการยื่นเรื่องร้องเรียนไว้แล้วต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และอยู่ระหว่างขั้นตอนกระบวนการ โดยการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตทำบัตรประจำตัวประชาชนนั้น นอกจากในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังพบว่ามีการยื่นเรื่องร้องเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งกรณีลักษณะนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องยาวนานแล้ว