ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย - “ปวีณา-ทหารไทย” รับตัวจากทางการเมียนมากลับไทยแล้ว 3 รออีก 2..สาวไทยถูกหลอกทำงานเขตเศรษฐกิจพิเศษว้า ชายแดนพม่า-จีน แลกเงินเดือน 5 หมื่น พอไปถึงโดนซ้อม-ให้อดข้าว บังคับขายตัว โชคดีมีจังหวะไลน์บอกพ่อแม่ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ประสานช่วยสำเร็จ
วันนี้ (27 พ.ย. 65) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยตัวแทน พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีฝ่ายไทย พ.อ.อนุวัช ปัญญานันท์ รอง ผบก.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย พม.เชียงราย ได้รับตัวหญิงชาวไทยที่ถูกหลอกให้ไปค้าประเวณีในฝั่งรัฐฉาน ประเทศเมียนมา 3 คน ข้ามแดนกลับไทย
ซึ่งทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็กได้นำตัวหญิงไทยทั้ง 3 คน อายุ 27 ปี 28 ปี และ 29 ปี (ตามลำดับ) เดินทางด้วยรถยนต์ผ่านสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ส่งตัวให้แก่คณะฝ่ายไทยที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ทั้งนี้ การช่วยเหลือหญิงสาวชาวไทยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีหญิงสาวจำนวน 5 คนร้องทุกข์ว่าได้ถูกกลุ่มคนหลอกพาไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านแลกกับรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทำให้ทั้งหมดหลงเชื่อและร่วมกับกลุ่มคนที่หลอกลวงลักลอบเดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมาทั้งหมดถูกส่งตัวไปอยู่ที่เมืองล็อกกิ่ง เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 400 กม. แต่กลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันตั้งแต่ต้น และถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากขัดขืนไม่ยินยอมก็จะถูกทำร้ายร่างกายด้วย
ทั้งนี้ ช่วงที่ทั้งหมดยังอยู่ที่เมืองล็อกกิ่ง ยังถูกบังคับให้เสพยาเสพติดด้วย ดังนั้นจึงตกอยู่ในภาวะที่ยากลำบากอย่างยิ่ง จึงได้ติดต่อทางอินเทอร์เน็ตไปยังมูลนิธิปวีณาฯ และทีบีซีฝ่ายไทย เพื่อให้ช่วยเหลือ กระทั่งทางทีบีซีฝ่ายเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับสหรัฐว้านำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือทั้ง 5 คนออกมาได้สำเร็จ และได้ส่งมอบตัวกลับมายังฝ้่งไทยก่อน 3 คนดังกล่าว ส่วนอีก 2 คนอยู่ระหว่างเดินทางเพื่อส่งตัวกลับต่อไป
นางปวีณากล่าวว่า หญิงสาวที่ถูกหลอกและร้องขอให้ช่วยเหลือมี 2 กลุ่ม รวมทั้งหมด 5 คน กลุ่มแรกคือ 3 คนที่ได้รับการช่วยเหลือส่งตัวกลับมาแล้วนั้น มีคนหนึ่งเล่นเฟซบุ๊กและพบการเชิญชวนให้ไปทำงาน จึงได้ชวนน้องสาวอีก 1 คน และเพื่อนอีก 1 คน รวม 3 คน เดินทางไปทำงานตามที่ถูกหลอกดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา แต่หลังจากไปถึงที่หมายก็ไลน์มาบอกพ่อแม่ว่า..ไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้และถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย ไม่ให้กินข้าว ฯลฯ จึงได้ติดต่อทางไลน์มาถึงในครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ก็ติดต่อไปยังมูลนิธิให้ช่วยเหลืออีกทอดหนึ่ง
"เมืองล็อกกิ่งเป็นดินแดนห่างไกลและอยู่ติดชายแดนไทย-จีน-เมียนมา ใช้ระยะเวลาเดินทางนาน 5 วัน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในการปกครองของกลุ่มว้าที่ทหารเมียนมายังเข้าไปไม่ถึง เมื่อมูลนิธิฯ ประสานไปยังอธิบดีกรมการกงสุลแล้วพบว่าเป็นเรื่องยากลำบากแต่ได้รับคำแนะนำให้ประสานทหาร มูลนิธิและครอบครัวเหยื่อจึงบินตรงมาประสานกับ พ.อ.ณฑี ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง รวมทั้ง พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชียงราย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตำรวจแม่สาย ฯลฯ และหน่วงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ ซึ่งเราได้เปิดวิดีโอคอลให้ทั้ง 5 คนพูดเข้ามา ซึ่งตอนนั้นทางผู้แทนทหารเมียนมาที่ร่วมรับฟังด้วยขอใช้เวลาในการประสานช่วยเหลือจากวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา จนสามารถช่วยเหลือกลับมาได้ในที่สุด" นางปวีณากล่าว
พ.อ.อนุวัช ปัญญานันท์ รอง ผบก.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง กล่าวว่า พื้นที่เมืองล็อกกิ่งหรือเล้าไก่อยู่ในรัฐฉานเหนือ เป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มว้าและมีนักลงทุนจากจีนเข้าไปลงทุนสถานท่องเที่ยวบันเทิงรวมถึงมีกาสิโน เป็นเมืองที่กำลังเจริญเติบโตจึงมีความต้องการคนเข้าไปทำงาน แต่การเดินทางเข้าไปยากลำบากใช้เวลาหลายวัน
ด้าน พ.ต.อ.เขมชาติกล่าวว่า ขณะนี้ด่านชายแดนไทย-เมียนมายังปิดอยู่ แต่กรณีช่องทางที่เปิดก็ขอให้เดินทางออกไปตามช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านกรมการจัดหางาน และอย่าได้หลงไปกับคำหลอกลวงเรื่องรายได้สูง นอกจากนี้ กรณีเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยนั้น หากเกิดปัญหาจะทำให้การช่วยเหลือจากรัฐไทยทำได้ยากจึงควรพิจารณาให้รอบด้านด้วย
สำหรับกรณีหญิงสาวทั้ง 5 คนดังกล่าวบางส่วนอาศัยอยู่ที่ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะ 2 คนพี่น้องถูกหลอกให้ไปทำงานที่เมืองล็อกกิ่งเมื่อเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา และสามารถติดต่อผ่านทางไลน์กลับมายังครอบครัวจนร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ได้เมื่อเดือนตุลาคม ก่อนที่มูลนิธิฯ จะประสานกองกำลังผาเมืองเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่เมียนมาช่วยเหลือ
กระทั่ง พ.อ.มิน มิน ทุน ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก และทีบีซี ได้แจ้งทหารของสหรัฐว้าให้ช่วยเหลือ แต่ช่วงนั้นกลุ่มหญิงสาวชาวไทยได้พากันหลบหนีออกจากสถานบันเทิงที่ถูกควบคุมตัวออกมาก่อน และโชคดีที่ไปพบกับเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาที่นอกเขตว้าพอดี ทำให้ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือแล้วส่งตัวขึ้นเครื่องบินจากเมืองลาเฉียว ทางตอนเหนือของรัฐฉาน มายัง จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย ได้ในที่สุดดังกล่าว