กาญจนบุรี - งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และงานกาชาด 10 วัน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 42 แล้ว เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี และวีรกรรมความกล้าหาญของ พ.ท.บุญผ่อง ผู้มีบทบาทในช่วงสงครามโลก ครั้งที่สอง จนได้รับการยกย่อง มาจนถึงปัจจุบัน ปีนี้คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
จากกรณีจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำหนดจัดงานสัปดาห์สะพานแม่น้ำแคว และงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี พ.ศ.2565 ขึ้นระหว่างวันที่ 26 พ.ย.-5 ธ.ค.65 รวม 10 วัน 10 คืน โดยคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.อนุศิลป์ สิริเวชชะพันธ์ นายกสมาคมชาวกาญจน์ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และครอบครัวของ พ.ท.บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี ผู้มีบทบาทในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้านมนุษยธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน
โดยมี ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้กล่าวรายงาน มี รศ.ดร.พญ.เรวิกา ไชยโกมินทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นางวิมลทิพย์ เวียงสิมมา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ดร.กิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ ภาคเอกชน นักท่องเที่ยว และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2523 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2565 นี้ เป็นครั้งที่ 42 แล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี และเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของท่าน พ.ท.บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ ผู้มีบทบาทในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่ได้ช่วยเหลือเชลยศึกโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จนได้รับการยกย่องในด้านมนุษยธรรมมาจนถึงปัจจุบัน
อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน มีทั้งการออกร้านกาชาดเพื่อการกุศล นำรายได้ไปใช้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และกิจกรรมสาธารณกุศลในพื้นที่ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์โตโยต้ายาริส และรางวัลรถจักรยานยนต์ ทีวีสี ตู้เย็น ไมโครเวฟ รวมทั้งชิงรางวัลต่างๆ อีกมากมาย
ไฮไลต์ของงานในการแสดงแสง เสียง (Light and Sound) ย้อนรอยประวัติศาสตร์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในปีนี้มาในรูปแบบการแสดงจินตภาพประกอบแสง เสียง และสื่อผสมอิงประวัติศาสตร์ ใช้ชื่อชุดว่า “บันทึกมิตรภาพ...ทางรถไฟสายมรณะ” มีการแสดงทั้งหมด 4 องก์ ประกอบด้วย
องก์ที่ 1 สงครามมหาเอเชียบูรพา องก์ที่ 2 เส้นทางรถไฟสายมรณะ องก์ที่ 3 ความเมตตาไร้พรมแดน องก์ที่ 4 รอยจารึกสู่สันติภาพ ออกแบบและจัดสร้างฉากต่างๆ เช่น ค่ายกักกัน ฉากค่ายเชลย หรือฉากอื่นๆ พร้อมจอ LED ประกอบฉากบทเวทีมาพร้อมกับเทคนิคพิเศษประกอบการแสดงที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐาน และมีความปลอดภัย พร้อมชมขบวนรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ สีดำเขียวสวยสง่า พ่นไอน้ำสีขาว และเสียงหวูดเป็นเอกลักษณ์ที่หาชมยากมาประกอบการแสดง ใช้เวลาความยาวประมาณ 40 นาทีต่อ 1 รอบการแสดงมีทั้งหมดจำนวน 11 รอบ เปิดให้เข้าชมฟรีทุกรอบการแสดง
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีโซนแสดงนิทรรศการของหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน โซนจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวสินค้าที่มีคุณภาพ โซนสวนสนุกระดับพรีเมียม โดยจำหน่ายบัตรค่าบริการเครื่องเล่น และร้านค้าที่หลากหลาย พร้อมชมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง สำหรับการเข้าชมได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมภายในงานสัปดาห์ข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้โดยไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู พร้อมทั้งมีระบบการบริหารจัดการเพื่อรองรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในงานวันนี้ (27 พ.ย.) เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า รวมทั้งเข้าไปรับประทานอาหารตามร้านค้าต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้อากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าวก็ตาม
ทั้งนี้ นายวรพัทธ์ แก้วแต้ม ตัวแทนผู้รับสิทธิการจัดกิจกรรมภายในงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ดำเนินการทำงานสะพานข้ามแม่น้ำแควมาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวที่มีการปรับปรุงสร้างขึ้นมาค่อนข้างสูง และรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีติด 1 ใน 10 ของประเทศไทยมาตลอด แต่อาจจะมีการชะลอตัวลงมาบ้างในช่วงปี พ.ศ.2564 เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเมื่อมีการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควขึ้นมาในปีนี้ จะสังเกตพบว่า ที่พักตามโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ ที่มีอยู่ถูกจองล่วงเต็มเกือบทั้งหมด นั่นหมายถึงนักท่องเที่ยวที่มาไม่ได้มาเที่ยวงานสัปดาห์สะพานแม่น้ำแควเพียงอย่างเดียว แต่นักท่องเที่ยวได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญ เช่น ไปรับประทานอาหารตามร้าน รวมทั้งไปล่องแพ ไปเที่ยวเขื่อน และไปเที่ยวที่สะพานมอญ อ.สังขละบุรี
ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ได้รับผลจากการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควโดยตรง สำหรับการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควในปีนี้ จากการประเมินรายได้ของร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่ภายในงานกว่า 400 ร้านค้า คาดว่าเมื่อสิ้นสุดการจัดงานในวันที่ 5 ธ.ค.65 ร้านค้าต่างๆ จะมีรายได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท