หนองคาย - รวบหนุ่มอุดรขับรถบรรทุกน้ำมันส่งข้ามลาว ขากลับลอบขนยาบ้า 3,860,000 เม็ด ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม และยาอีอีก 5,000 เม็ดซุกซ่อนในถังน้ำมันเปล่ากลับเข้าไทยผ่านด่านหนองคาย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สารภาพได้ค่าจ้าง 50,000 บาท ต้องการหาเงินรักษาเมียที่ป่วยสารพัดโรค
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (23 พ.ย. 65) ที่ด่านศุลกากรหนองคาย อ.เมืองหนองคาย นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2, นายวุฒิ เร่งประดุงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย, นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากร, นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าด่านพรมแดนหนองคาย, พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร, พิสูจน์หลักฐาน, ตรวจคนเข้าเมือง, ทหาร, ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายประสิทธิ์ ปันภูมี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 14 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 3,860,000 เม็ด, ยาอีเม็ดสีม่วงรูปหมี 5,000 เม็ด, ไอซ์ 10 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท โดยทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทแห่งหนึ่ง ทะเบียน 71-6842 ชลบุรี ตัวพ่วง 71-7042 ชลบุรี
การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ขณะที่นายภาคิน เทียบคำ นำเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบรถยนต์ที่เดินทางเข้าออกประเทศบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตามปกติ ได้มีนายประสิทธิ์ขับรถบรรทุกน้ำมันกลับเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบโดยใช้รถเอกซเรย์พบว่ามีความผิดปกติบริเวณถังน้ำมัน ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ามีวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ เมื่อนำออกมาจากถังน้ำมันก็พบว่าเป็นยาบ้า ยาอี และยาไอซ์ จำนวนดังกล่าว
จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ให้การรับสารภาพว่าได้ขับรถบรรทุกน้ำมันไปส่งให้กับบริษัทที่ประเทศลาวมานานกว่า 20 ปี ไม่เคยเสพยาเสพติดมาก่อน ในครั้งนี้ได้ขับรถนำน้ำมันไปส่งตามปกติเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อจะเดินทางกลับได้มีคนลาวไม่ทราบชื่อติดต่อมาให้จอดรถตามป่าข้างทางก่อน แล้วมี 3 คนขนของมาขึ้นรถให้ บอกให้ตนนำยาเสพติดทั้งหมดไปส่งที่เขาหินซ้อน จ.ปราจีนบุรี ให้เงินมาก่อนแล้ว 50,000 บาท และจะมีการแจ้งจุดนำส่งยาเสพติดอีกครั้ง
โดยเช้าวันนี้ตนได้ขับรถกลับเข้าประเทศไทยผ่านด่านหนองคายและถูกจับกุมในที่สุด เหตุที่รับจ้างขนยาบ้าเพราะต้องการหาเงินมารักษาภรรยาที่กำลังป่วยหลายโรครุมเร้า อีกทั้งเมื่อ 6 ปีก่อนเคยรับจ้างขนกัญชาเข้ามาในประเทศครั้งละประมาณ 300-400 กิโลกรัมมาก่อน ได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาท และทำมาหลายครั้งแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
