xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาญจน์ฯ ลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการกู้ร่างน้องมาวิน สูญหายในเขื่อนศรีนครินทร์นานถึง 28 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ฯ ลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการกู้ร่าง ‘น้องมาวิน’ โดยชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ โดยวางไว้ 2 แผน ใช้อุปกรณ์และนักประดาน้ำดำลงไปกู้ร่างขึ้นมา หลังประสบอุบัติเหตุตกจากเจ็ตสกี จมน้ำสูญหายไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์นานถึง 28 วัน ล่าสุด นายกสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติมาช่วยอีกแรง
 
ความคืบหน้าภารกิจค้นหาร่าง ‘น้องมาวิน’ วัย 18 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุตกจากเจ็ตสกี จมน้ำสูญหายไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความยากลำบากและมีอุปสรรคต่างๆ ทำให้ต้องยกเลิกภารกิจการค้นหาครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมเวลาทั้งสิ้น 16 วัน และจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในหลายพื้นที่กว่า 200 ชีวิต ซึ่งร่วมวางแผนเตรียมอุปกรณ์ในการค้นหาร่างน้องมาวิน ได้เริ่มปฏิบัติการอีกครั้งวานนี้ (19 พ.ย.) โดยตั้งเป้าหมายจะใช้เวลาค้นหา 48 ชั่วโมง (2 วัน) เท่านั้น หากไม่พบจะยุติภารกิจลงทันที กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. เรือสแกนเจอวัตถุต้องสงสัย ต่อมาใช้โดรนใต้น้ำส่งลงไปสำรวจพบร่างคล้ายมนุษย์ใต้น้ำ ในระดับความลึก 74 เมตร

เบื้องต้น พบว่าสวมกางเกงขาสั้น สภาพนอนหงาย ร่างไม่เน่าเปื่อย สร้างความดีใจให้ น.ส.เกสรา เฟื่องฟู หรือเก๋ ผู้เป็นแม่ของน้องมาวิน ซึ่งยืนยันว่าเป็นศพของลูกชายจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ หลังจากจมอยู่ใต้น้ำนานถึง 28 วัน แต่การกู้ร่างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดที่พบร่างมีระดับความลึกมาก สภาพน้ำด่านล่างมีความหนาวเย็น คลื่นแรง และทัศนวิสัยมืดสนิท ซึ่งเป็นอุปสรรคในการกู้ร่างและเสี่ยงอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน โดยหลังจาก พล อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องได้สั่งการให้กองทัพเรือลงพื้นที่สนับสนุนภารกิจในครั้งนี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ และทีมแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ กองทัพเรือ ได้เดินทางมาถึงกองอำนวยการศูนย์บัญชาการภารกิจค้นหา นายมาวิน เนตร์เดชา เขื่อนศรีนครินทร์ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บ้านหม่องกระแทะ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เพื่อปฏิบัติภารกิจครั้งนี้

ต่อมา เวลา 11.20 น. ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอศรีสวัสดิ์ และนายอุทัย ขันทอง รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางมาที่กองอำนวยการศูนย์บัญชาการ ก่อนจะลงเรือไปติดตามการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่หน้างาน พร้อมให้กำลังใจ น.ส.เกสรา เฟื่องฟู หรือเก๋ แม่ของน้องมาวิน ที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่อรอลุ้นที่จะพบร่างของลูกชายอย่างใจจดใจจ่อ โดย แม่เก๋ ฝากขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมทั้ง พล อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ส่งทหารเรือมาช่วยเหลือในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประสานไปยัง กฟผ.เขื่อนศรีนครินทร์ ให้หยุดเดินเครื่องระบายน้ำ 2 เครื่องเป็นการชั่วคราว เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้น และเป้าหมายที่ได้มาร์กจุดไว้โดยไม่คลาดเคลื่อน

โดย ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังจากกลับเข้าฝั่งว่า ขณะนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ ซึ่งเป็นส่วนหน้าได้เดินทางมาถึงแล้ว ส่วนเครื่องมือและอุปกรณ์ ห้อง Chamber อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายมา โดยชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ ได้ลงสำรวจท้องน้ำจุดเกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว เพื่อทำการกำหนดแผนที่พื้นที่ท้องน้ำนำมาวางแผนการปฏิบัติงานใต้น้ำ เบื้องต้น วางแผนไว้ 2 แผน คือ แผนแรกจะใช้อุปกรณ์ลงไปนำร่างน้องขึ้นมา
 
แต่หากไม่สำเร็จ วันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) จะใช้แผน 2 คือให้นักประดาน้ำของกองทัพเรือดำลงไปกู้ร่างขึ้นมา แต่จะต้องทำอย่างระมัดระวังและรอบคอบที่สุด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำลึกที่มีอุปสรรคหลายอย่าง ดังนั้น นักประดาน้ำจะต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณหน่วยปฏิบัติการทุกหน่วยที่มีจิตอาสาทั้งภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่ และ ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ ที่อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ พร้อมเครื่องมือพิเศษมาให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้  

"ทราบว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ได้ฝึกความพร้อมในการทำงานในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาท ตนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกัน และรับฟังคำสั่งจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ เป็นหลัก เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ" ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ กล่าว
 
ขณะที่แฟนสาวของ น้องมาวิน ได้นำรูปของ มาวิน ที่ใส่กรอบไว้อย่างสวยงามเดินทางมาลงเรือเพื่อไปยังจุดพบร่างของ น้องมาวิน พร้อมให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า หลังจากที่ มาวิน แฟนหนุ่มจมหายไปในน้ำนานเกือบ 1 เดือน ตนและทุกคนต่างเฝ้าอธิษฐานให้ร่างขึ้นมาเร็วๆ กระทั่งวานนี้เจ้าหน้าที่พบร่างจมอยู่ใต้น้ำ หลังทราบข่าวรู้สึกดีใจมาก และร้องไห้กับแม่ของมาวิน แต่คิดไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องเจอร่าง ขณะนี้สภาพจิตใจของแม่มาวินดีขึ้น แต่ยังทำใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ทุ่มเทในการค้นหาร่างของมาวินจนพบ
 
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจะไม่ดำลงไปใต้น้ำในลักษณะเดียวกันกับวานนี้แล้ว เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อตัวผู้ปฏิบัติงาน แต่จะนำอุปกรณ์ลงไปนำน้องขึ้นมาจากใต้ท้องน้ำและนำขึ้นมาในระดับความลึกที่ปลอดภัยสำหรับนักประดาน้ำ ก่อนที่นักประดาน้ำจะนำร่างน้องขึ้นมาเหนือผิวน้ำ และนำกลับเข้าฝั่ง
 
และเมื่อเวลา 15.30 น นายอัศวิน โรมประเสริฐ นายกสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ พร้อมด้วยทีมงานเดินทางไปสักการะศาลหลวงพ่อ 7 กษัตริย์ บนสันเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าหน้าที่เขื่อน และชาวเรือแพให้ความเคารพนับถือ เพื่อขอขมาหากทีมงานและน้องมาวิน ได้กระทำสิ่งใดเป็นการล่วงเกิน พร้อมทั้งขอพรให้ภารกิจนำร่างน้องขึ้นมาจากใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ สำเร็จลุล่วงลงได้ภายในวันนี้ด้วย
 
โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ จะเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งในเวลา 18.00 น.โดยจะใช้โดรนใต้น้ำ เป็นหลักในการทำงาน ซึ่งมั่นใจว่าภายในคืนนี้ (ไม่เกินเที่ยงคืนของคืนนี้) จะสามารถนำร่างน้องขึ้นมาได้อย่างแน่นอน อุปสรรคในการทำงานที่ผ่านมาคือเรื่องความลึกของน้ำที่เกินขีดความสามารถที่มนุษย์จะดำลงไปถึง จึงต้องอาศัยโดรนใต้น้ำในการค้นหา ทำให้การทำงานล่าช้า
 
ด้านเจ้าหน้าที่ตอบโต้ภัยพิบัตินายหนึ่งได้เปิดเผยขั้นตอนการนำร่างของน้องมาวิน ที่โดรนใต้น้ำได้ค้นพบแล้วเมื่อช่วงสายของวันนี้ ขั้นตอนในการนำร่างน้องมาวิน ขึ้นจากน้ำจะใช้โดรนน้ำร่างน้องขึ้นมาจากจุดที่พบร่างน้องที่ความลึก 70 เมตร เมื่อโดรนนำขึ้นมาถึงความลึกระดับ 50-40 เมตร ทีมนักประดาน้ำจะลงไปประกบโดรนก่อนจะรับช่วงในการนำร่างน้องขึ้นมาต่อจากโดรนจนถึงผิวน้ำ ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอชาร์จแบตของโดรนใต้น้ำที่จะใช้ในเวลา 18.00 น.วันนี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนเตรียมซักซ้อมแผนเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญในคืนนี้ ทั้งนี้จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญเผยว่าการทำงานใต้น้ำในช่วงกลางคืนจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากกลางคืนคลื่นลมสงบ ไม่มีเรือแล่น น้ำจะใสกว่ากลางวัน ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการทำงานดีกว่าด้วยเช่นกัน










กำลังโหลดความคิดเห็น