กาญจนบุรี - เริ่มปฏิบัติการกู้ร่าง ‘น้องมาวิน’ กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ หลังจมอยู่ใต้น้ำนานถึง 28 วันโดยมีทีมกู้ภัยจากที่ต่างๆ ให้ความช่วยเหลือจำนวนมาก พร้อมทั้งกองทัพเรือส่งเจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 2 ชุด เข้าร่วมกู้ร่างวันนี้
ภารกิจการค้นหาร่าง ‘น้องมาวิน’ วัย 18 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุตกจากเจ็ตสกีจมน้ำสูญหายไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความยากลำบาก และมีอุปสรรคต่างๆ ทำให้ต้องยกเลิกภารกิจการค้นหาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมเวลาทั้งสิ้น 16 วัน
แต่ทีมงานค้นหายังไม่ถอดใจ รวมถึง น.ส.เกสรา เฟื่องฟู หรือเก๋ ผู้เป็นแม่ของน้องมาวิน มีความหวังจะพบร่างลูกชาย จึงตัดสินใจค้นหาอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ย. ตั้งเป้าหมายจะใช้เวลาค้นหา 2 วัน (19-20 พ.ย.) จากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในหลายพื้นที่กว่า 200 ชีวิต ซึ่งร่วมวางแผนเตรียมอุปกรณ์ในการค้นหาร่างน้องมาวิน อีกครั้ง และนำมาเป็นประสบการณ์ในการค้นหาเคสต่อๆ ไป เนื่องจากร่างน้องมาวิน ถือเป็นร่างที่ 9 ที่จมหายไปในเขื่อนศรีนครินทร์
โดยตั้งกองอำนวยการศูนย์บัญชาการที่ริมฝั่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บ้านหม่องกระแทะ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ของวานนี้ (19 พ.ย.) เรือสแกนเจอวัตถุต้องสงสัย ต่อมา ใช้โดรนใต้น้ำส่งลงไปสำรวจ พบร่างคล้ายมนุษย์ในระดับความลึก 74 เมตร เบื้องต้น พบสวมกางเกงขาสั้น สภาพนอนหงาย ร่างไม่เน่าเปื่อย สร้างความดีใจให้ น.ส.เกสรา เฟื่องฟู หรือเก๋ ผู้เป็นแม่ของน้องมาวิน ซึ่งยืนยันว่าเป็นศพของลูกชายจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ หลังจากจมอยู่ใต้น้ำนานถึง 28 วัน
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (20 พ.ย.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ร่วมประชุมวางแผนในการนำร่าง ‘น้องมาวิน’ ขึ้นมาจากใต้ท้องน้ำ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังและสังเกตการณ์ด้วยแต่อย่างใด โดยระบุว่า หากมีความพร้อมเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับร่างของน้องมาวิน ที่ค้นพบวานนี้ พบว่า นอนหงายจมอยู่ใต้ท้องน้ำลึกประมาณ 74 เมตร และอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุที่ตกจากเจ็ตสกี ประมาณ 70 เมตร โดยจุดที่พบร่างมีระดับความลึกมาก สภาพน้ำด่านล่างมีความหนาวเย็น คลื่นแรง และทัศนวิสัยมืดสนิท ซึ่งเป็นอุปสรรคในการกู้ร่าง และเสี่ยงอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเจ็ตสกี รวมทั้งเรือท้องแบนพร้อมอุปกรณ์โดรนค้นหาใต้น้ำ จำนวน 2 ตัว ไปยังจุดพบร่างของน้องมาวิน เพื่อนำโดรนที่มีศักยภาพค้นหาใต้ท้องน้ำในระดับความลึกประมาณ 200 เมตร โดยจะใช้วิธีนำเบ็ดเกี่ยวติดกับโดรนหวังเกี่ยวเสื้อผ้าที่น้องสวมใส่แล้วดึงขึ้นมาจากใต้ท้องน้ำ
ระหว่างนี้ปรากฏว่ามีแพนักท่องเที่ยวลอยลำอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาจึงจำเป็นต้องร้องขอห้ามแพท่องเที่ยวเหล่านั้นผ่านจุดค้นหาร่างของน้องมาวิน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาเพราะอาจทำให้เกิดคลื่น ซึ่งอาจทำให้ตำแหน่งที่กำหนดจุดไว้คลาดเคลื่อนได้ และจะส่งผลต่อการปฏิบัติภารกิจกู้ร่างในครั้งนี้
ขณะที่การทำงานของสื่อมวลชนก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอนุญาตให้สื่อมวลชนคัดเลือกตัวแทนเพียง 5 คนเท่านั้น เดินทางไปกับเจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกภาพข่าว และหากทีมกู้ภัยใดขัดคำสั่งจะให้หน่วยนั้นพักงานทันที โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าจะทำให้การปฏิบัติการกู้ร่างน้องมาวิน ขึ้นจากใต้ท้องน้ำลำบากยิ่งขึ้น ขณะที่แม่ของน้องมาวิน ไม่อนุญาตให้สื่อบันทึกภาพร่างของลูกชายเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทหารทีมงาน พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประวิทย์ ติดตามข่าวการค้นหาร่างน้องมาวิน และทราบว่าขณะนี้พบร่างแล้ว แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้เนื่องจากอยู่ในน้ำลึกประมาณ 70 เมตร ซึ่งรองนายกฯ เป็นห่วง จึงได้สั่งการไปที่ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้จัดทีมนักประดาน้ำกองทัพเรือ พร้อมให้นำห้อง Chamber และทีมแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ กองทัพเรือ เดินทางมาสนับสนุนร่วมค้นหาในครั้งนี้
โดยเป็นเจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ พร้อมอุปกรณ์ในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต นายแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนนักประดาน้ำที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย ชุดต่อต้านทุ่นระเบิดเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์ Side Scan Sonar ของกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการสำหรับใช้ในการค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งกำลังของกองทัพเรือชุดแรกจะเข้าพื้นที่ในเวลา 09.00 น. โดยจะมีการประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนกว่าการดำเนินการจะบรรลุภารกิจ ซึ่งถือเป็นข่าวดีเนื่องจากทีมประดาน้ำกองทัพเรือมีขีดความสามารถและศักยภาพสูง หากได้มาช่วยเหลือทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะสามารถนำร่างน้องมาวิน ขึ้นมาได้ในวันนี้อย่างแน่นอน