ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับ กฟผ.ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงผึ้งชันโรงแก่ชุมชน จ.ขอนแก่น หวังพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างรายได้จากการเลี้ยง “ผึ้งชันโรง” หลังประสบผลสำเร็จเกิดผลิตภัณฑ์ชันโรงระยอง ชันโรงบางน้ำผึ้ง และชันโรงลำปาง
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ศูนย์เรียนรู้สวน “นา 3 ดี” อ.เมือง จ.ขอนแก่น ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ประเด็นเป้าหมายด้านการพัฒนาสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานเปิดงาน การส่งเสริมอาชีพชุมชนใต้แนวสายส่ง การเลี้ยงผึ้งชันโรงในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น มีนายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงวัตถุประสงค์จัดงาน พร้อมด้วยนายสหชาติ พิลาออน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และมีนายกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ เจ้าของสวน “นา 3 ดี” เข้าร่วมกิจกรรม
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกาศเจตนารมณ์ ความร่วมมือ “Big Brothers…นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม…น้ำผึ้งชันโรง” พัฒนาการเลี้ยงและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งชันโรงแก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมเปิดการฝึกอบรมการส่งเสริมอาชีพชุมชนใต้แนวสายส่งการเลี้ยงผึ้งชันโรงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
“โครงการการพัฒนาการเพาะเลี้ยงและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของผึ้งชันโรง” เป็นการนำจุลินทรีย์ที่คัดแยกจากรังผึ้งชันโรงสายพันธุ์ถ้วยดำในภาคเหนือมาพัฒนาเป็นจุลินทรีย์โพรไบโอติก ผสมกับอาหารเสริมหลักที่มีเกสรผึ้ง น้ำเชื่อม น้ำเปล่า เป็นส่วนประกอบ และมีกากถั่วเหลือง ถั่วเหลืองอบไขมันเต็ม และโปรตีนสำเร็จรูป เป็นส่วนประกอบเสริมทำให้ผึ้งชันโรงมีอาหารเพียงพอตลอดทั้งปี
ส่งผลให้อัตราการรอดชีวิตสูง เพิ่มการสร้างตัวอ่อนในรังและสร้างถ้วยน้ำหวานเพิ่มขึ้น หรือกล่าวได้ว่าเป็นการเพิ่มผลผลิตและสามารถผลิตน้ำผึ้งได้ทั้งปี อันจะเป็นประโยชน์โดยตรงแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งชันโรงต่อมาอาหารเสริมสำหรับผึ้งชันโรงจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม ได้รับความสนใจจากเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งชันโรงในพื้นที่อื่นของประเทศและมีความต้องการในการต่อยอดขยายผล ผึ้งชันโรงแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการอาหารที่จำเพาะและแตกต่างกัน โดยสูตรอาหารเสริมดังกล่าวข้างต้นถูกพัฒนาให้เหมาะสำหรับผึ้งชันโรงในพื้นที่ภาคเหนือโดยจำเพาะสายพันธุ์ถ้วยดำ
นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้ร่วมกับ 9 องค์กร แสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือ “Big Brothers…นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม...น้ำผึ้งชันโรง” เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เพื่อนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ รวมถึงพัฒนางานวิจัยให้ตอบโจทย์การใช้ประโยชน์ ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้ของชุมชน และพัฒนาแบรนด์ ชันโรงระยอง, ชันโรงบางน้ำผึ้ง และชันโรงขอนแก่น ภายใต้การสนับสนุนของเครือข่าย Big Brother หรือ พี่เลี้ยง วช.
ในฐานะหน่วยงานที่ร่วมก่อตั้งเครือข่าย Big Brother และฐานะองค์กรพี่เลี้ยงหลักในกลุ่มสนับสนุนการวิจัย เห็นถึงความร่วมมือจากเครือข่ายอย่างมุ่งมั่น เพื่อนำหลัก Social Enterprise หรือกิจการเพื่อสังคมไปใช้ประโยชน์ให้ตรงความต้องการของประเทศ ด้วยการสร้างรายได้ให้ชุมชนเกษตรกรที่เป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และนำชุมชนไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันของเครือข่ายในรูปแบบพี่เลี้ยง
ที่ผ่านมาได้จัดฝึกอบรมมา 2 ครั้ง ครั้งแรก จังหวัดระยอง มีบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 2 จังหวัดสมุทรปราการ มีบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นเจ้าภาพ และจังหวัดขอนแก่น เป็นครั้งที่ 3 มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตประเทศไทย โดยฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเจ้าภาพ โดยการอบรมวันนี้เป็นการขยายการเลี้ยงมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ และโจทย์ที่ท้าทายที่ต้องร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าชุมชนผ่านการส่งเสริมการสร้างรายได้ชุมชนจากการเลี้ยงผึ้งชันโรง
ทั้งนี้ จากความร่วมมือของ Big Brothers เป็นการร่วมมือกันเพื่อสร้างให้เกิดการพัฒนาอาชีพและกระจายรายได้สู่ชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของแบรนด์ “ชันโรงระยอง” “ชันโรงบางน้ำผึ้ง” และ “ชันโรงลำปาง” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างรายได้อย่างมั่นคงและพอเพียง