เพชรบูรณ์ - เปิดภาพกล้องหน้ารถ..นาทีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน รถตู้แหกโค้งชนแบริเออร์โค้ง S1 ทางขึ้นลงภูทับเบิก พระเจ็บ 6 รูป ก่อนอีกคันเสียหลักพุ่งลงเขาชนซ้ำตูมสนั่น ขณะ จนท.ตำรวจ-กู้ภัยฯ กำลังช่วยคน จนทั้งพระทั้งฆราวาสกระโดดหนีกันกระเจิง เจ็บเพิ่มอีก 6
กรณีอุบัติเหตุรถตู้ชนแบริเออร์ปูนบนทางขึ้นภูทับเบิก ที่บริเวณโค้ง S1 ต.บ้านเนิน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งศูนย์วิทยุ สภ.หล่มเก่า ได้รับแจ้งเหตุวานนี้ (18 พ.ย. 65) ก่อนประสานสมาคมอาสาฯ ร่วมกตัญญู สาขาหล่มสัก หล่มเก่า ออกตรวจสอบ พบรถยนต์ตู้โตโยต้า ทะเบียน ฮท 8558 กทม. เบรกไม่อยู่ชนแบริเออร์ปูนในที่เกิดเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย อาสาฯ ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล
แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยกำลังเข้าตรวจสอบช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้มีรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮต 8221 กทม. เสียหลักพุ่งลงมาจากเนินเขาอย่างเร็ว ชนท้ายรถตู้คันแรกที่ชนแบริเออร์อยู่ก่อนแล้ว ทำให้พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณดังกล่าว รวมทั้งอาสากู้ภัยต้องวิ่งหนีกระเจิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็น 12 ราย โดยมีภาพกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้
หลังจากที่เกิดเหตุซ้ำซ้อน เจ้าหน้าที่ก็รวบรวมสติให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพยุหราชหล่มเก่า
นายธนวัฒน์ สิงห์ป้อง สมาคมอาสาสมัครร่วมกตัญญูเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก ที่เดินทางไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บในจุดดังกล่าว เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า กรณีอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ทางลงภูทับเบิกบริเวณโค้ง S1 ฝั่งขาลง จึงได้เร่งออกไปช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮท 8558 กทม. เสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ มีพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 รูป และมีอาสากู้ภัย-เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังให้ความช่วยเหลือ ในขณะนั้นมีรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮต 8221 กทม. พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ชนท้ายรถตู้คันแรกที่จอดอยู่ข้างทางเสียงดังสนั่นจนทำให้พระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสากู้ภัยกระโดดหนีกระเจิง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็น 12 ราย อาสากู้ภัยจึงได้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า
“อยากจะฝากผู้ที่จะขับขี่รถขึ้นภูทับเบิก ให้ระมัดระวัง ใช้เกียร์ต่ำ จำกัดความเร็ว ที่สำคัญควรเว้นระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงเพื่อนร่วมทางที่เดินทางมาท่องเที่ยวภูทับเบิกด้วย”