สามเหลี่ยมทองคำ - “จ้าวเหว่ย-ทุนใหญ่เจ้าของสัมปทานเขตเศรษฐกิจฯสามเหลี่ยมทองคำ” ส่งคนปฏิเสธพัลวันไม่เกี่ยวธุรกิจมืดทั้งอาชญากรรม-ยาเสพติด-ขบวนการตุ๋นคนร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลุ่มน้ำโขง ยันกลุ่ม 5 มังกรจีนทำธุรกิจสีเทาในไทย แต่สถิติจับยา-ลวงคนทำงานยังมาก
กรณีเว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวรัฐบาลประเทศออสเตรเลีย smartraveller.gov.au เผยแพร่คำเตือนการเดินทางไปเที่ยว สปป.ลาว ให้เพิ่มความระมัดระวังหากเดินทางเข้าไปตามแนวชายแดนลาว-พม่า และลาว-ไทย ในแขวงบ่อแก้ว โดยเฉพาะรอบเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ในเมืองต้นผึ้ง เนื่องจากเต็มไปด้วยอาชญากรรม การค้ายาเสพติด และมีการหลอกลวงคนให้มาทำงานผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ในไทยยังมีกระแสข่าวเครือข่ายธุรกิจ 5 มังกรจีนที่ดำเนินธุรกิจสีเทาในหลายเมืองใหญ่ของประเทศไทยว่าเกี่ยวพันกับนายจ้าวเหว่ย ประธานคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวด้วยนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำซึ่งได้รับมอบหมายให้ชี้แจงข้อมูลระบุว่านายจ้าวเหว่ยไม่เคยรู้จักกับกลุ่ม 5 มังกรดังกล่าว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการใดๆ ในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้นายจ้าวเหว่ยเป็นนักธุรกิจที่ค้าขายเฉพาะในประเทศจีน ต่อมาได้ขยายกิจการเข้าพื้นที่เมืองลา เขตปกครองพิเศษที่ 4 ประเทศเมียนมา ติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน กระทั่งได้ย้ายมาร่วมกับรัฐบาล สปป.ลาว ลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่เมืองต้นผึ้งดังกล่าว ดังนั้นผู้คนในวงการจะรู้กันดีว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่ม 5 มังกรดังกล่าวแต่อย่างใดและยิ่งไม่เคยทำธุรกิจร่วมกันด้วย
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุอีกว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งซ่อมสุมยาเสพติด อาวุธสงครามและอาชญากรรม ฯลฯ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเป็นบริษัทคิงส์โรมัน ขณะที่นายจ้าวเหว่ยได้ตั้งกฎระเบียบต่างๆ ขึ้น โดยหนึ่งในนั้นคือต่อต้านเรื่องยาเสพติดอย่างชัดเจน หากพนักงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจะมีบทลงโทษกักขังภายในก่อนจากนั้นนำส่งเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ดำเนินคดีตามกฎหมาย
และที่ผ่านมายังมีการสุ่มตรวจยาเสพติดในร่างกายของพนักงาน ตรวจหาอาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ เป็นประจำ โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จนทำให้นายจ้าวเหว่ยก็ได้รับรางวัลด้านการปราบปรามยาเสพติดจากรัฐบาล สปป.ลาว มาแล้วด้วย
"กรณีถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังในการหลอกคนไทยเข้าไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ทางเราให้ความสำคัญมาก หากมีผู้ร้องขอความช่วยเหลือทางเขตฯ ก็จะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ลาวและจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือทันที ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีคนถูกช่วยออกมาแล้วหลายคน ส่วนกลุ่มคนที่หลอกลวงคนไปทำงานเป็นพวกที่เข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจ แต่กลับหลอกคนเข้าไปทำงานกันเป็นทอดๆ โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ ไม่รู้เรื่องด้วยเลย" เจ้าหน้าที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำกล่าว
สำหรับธุรกิจด้านกาสิโนนั้น ช่วงแรกนายจ้าวเหว่ยได้จัดตั้งขึ้นเรียกกันว่า "คิงส์โรมัน" มีอาคารหลักเห็นได้ชัดเจนในฝั่งไทย แต่ปัจจุบันได้ให้กลุ่มทุนจากสิงคโปร์เข้าไปเช่าพื้นที่และบริหารงานแล้วในชื่อใหม่ว่า "ALLUXI CASINO” ตั้งอยู่ในอาคารหลักเดิมของคิงส์โรมัน
ส่วนนายจ้าวเหว่ยหันไปประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่เป็นหลัก เพราะเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ มีเนื้อที่กว่า 102 ตารางกิโลเมตร และมีสัญญาสัมปทานกับรัฐบาล สปป.ลาว ยาวถึง 99 ปี ทำให้มีธุรกิจที่ต้องบริหารหลากหลายทั้งอาคารให้เช่า ท่าเรือ พื้นที่ทางการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ แหล่งท่องเที่ยว การจัดงานเทศกาลโดยเฉพาะงานดอกงิ้วคำบนเกาะดอนซาวช่วงปลายเดือนมกราคมของทุกปี
รายงานข่าวแจ้งว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา ฯลฯ มักจะเดินทางไปดูพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและระบุว่าพื้นที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาวุธสงครามและอาชญากรรม
ขณะที่ปัญหายาเสพติดในแขวงบ่อแก้วมีมากขึ้น ล่าสุดเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาตำรวจเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ได้ตรวจยึดของกลางยาเสพติดได้คดีเดียวได้ถึง 5.5 ล้านเเม็ด เคตามีน 66 กิโลกรัม บรรทุกในรถยนต์กระบะเขตหมู่บ้านสีร่องน้ำ เมืองต้นผึ้ง และเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาก็สกัดยาบ้าที่จะขนผ่านเมืองต้นผึ้งได้จำนวน 300,000 เม็ด จับกุมคนขนได้ 2 คน จากนั้นขยายผลไปตรวจค้นที่โกดังแห่งหนึ่งพบยาบ้าอีกกว่า 33 ล้านเม็ด ไอซ์น้ำหนัก 500 กิโลกรัม ฯลฯ อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำดังกล่าว
ส่วนการหลอกคนไทยให้ข้ามไปทำงานไม่พึงประสงค์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำก็ยังมีอย่างต่อเนื่องโดยมีลักษณะคล้ายกันคือหลอกว่าจะพาไปทำงานในกาสิโน สถานบันเทิง นวดจับเส้น ฯลฯ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานหลอกให้คนเข้าไปลงทุน ฯลฯ โดยมีคนไทยได้รับการช่วยเหลือครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2564 จำนวน 3 คน และในปี 2565 วันที่ 21 ก.พ. จำนวน 15 คน วันที่ 17 มี.ค. จำนวน 3 คน วันที่ 6 พ.ค. จำนวน 16 คน วันที่ 9 มิ.ย. จำนวน 13 คน วันที่ 11 มิ.ย. จำนวน 19 คน วันที่ 21-22 มิ.ย. จำนวน 6 คน และวันที่ 11 ก.ค. จำนวน 1 คน และวันที่ 26 ส.ค. จำนวน 3 คน วันที่ 27 ก.ย. จำนวน 1 คน ฯลฯ