กาฬสินธุ์ - ไรเดอร์หนุ่มฉุนเมียสาวสวยไม่ยอมให้นอนด้วยบีบคอกระทืบปางตาย เผยหลังแยกห้องนอนนาน 7 เดือน สุดท้ายเกิดอาการกลัดมันย่องไปห้องเมียแต่ถูกปฏิเสธ หื่นโมโหบีบคอกระทืบปางตาย
วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 06.00 น. พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมทรง เวียงปฏิ สว.สอบสวนฯ และ ร.ต.อ.เมคิน ถิ่นแสนดี รอง สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา ที่หมู่บ้านเคหะหน้าเรือนจำ (หมู่บ้านเอื้ออาทร) เลขที่ 451/322 ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
ที่เกิดเหตุชั้นสอง ตำรวจพบ น.ส.สาริกา แสงทอง อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง นอนหายใจรวยรินอยู่บนที่นอน บริเวณใบหน้ามีเลือดบริเวณปาก สวมเสื้อยืด และผ้าถุงสีฟ้า จึงได้ให้ทีมกู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ห่างกันเจ้าหน้าที่พบผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายสุระศักดิ์ วิชะพล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 8 ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ยืนรอมอบตัว ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้าย น.ส.สาริกา ที่เป็นภรรยาของตนเอง
นายสุระศักดิ์ วิชะพล ผู้ต้องหา ให้การว่า สาเหตุที่ลงมือทำร้ายเนื่องจากตนมีความต้องการที่จะนอนกับภรรยาของตนที่อยู่กินมาด้วยกันประมาณ 7 ปี แต่มีปากเสียงกันมาประมาณ 7 เดือน ตนมีอาชีพขับรถรับส่งอาหารหรือไรเดอร์ จึงได้แยกห้องกันนอน แต่เช้าวันนี้รู้สึกมีความต้องการทางเพศอย่างมาก จึงได้ย่องไปเปิดประตูห้องภรรยาของตน จากนั้นก็ได้เข้าไปขอหลับนอนด้วย แต่ น.ส.สาริกาไม่ยอม และมีการทะเลาะกัน ด้วยความโมโหจึงได้ทำร้ายร่างกาย โดยได้บีบคอ น.ส.สาริกาจนแน่นิ่ง ตนตกใจจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ ตนยอมรับว่าเป็นคนลงมือทำร้ายจริงเพราะต้องการนอนกับภรรยา และเสียใจอย่างมาก จึงพร้อมที่จะยอมรับผิดจากการกระทำในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว น.ส.สาริกาไปโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นายสุระศักดิ์ ผู้ต้องหา ได้เข้ามากราบขอโทษ แต่เรื่องนี้จากการดูสภาพของ น.ส.สาริกา ถือว่ามีอาการสาหัส แพทย์ลงความเห็นว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้สติ อีกทั้งอาการที่หนักพบว่าฟันหน้าของ น.ส.สาริกา ที่มีการดัดฟัน แผงฟันได้หลุดไปพร้อมฟันเป็นแถบๆ ถือว่ามีอาการสาหัส อาจจะมีการลงมือแต่ผู้ต้องหาสารภาพเพียงว่าบีบคอ
เบื้องต้นได้ส่งตัวนายสุระศักดิ์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการสาหัส ซึ่งพนักงานสอบสวนฯ จะมีการพิจารณาหลักฐานต่อไปหากพบว่าเข้าข่ายเรื่องของพยายามฆ่า ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที