ระยอง - ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดระยอง นำตำรวจ กู้ภัยรวบตัวตึงระยอง กลับมารักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หลังพบกลับเข้ามาอาศัยในบ้านร้างที่เคยอยู่ ซ้ำก่อเหตุเผาบ้าน
ภายหลังจากที่ นางจันทร์ที ถิ่นกำแพง อายุ 55 ปี ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “ตัวตึงระยอง” น.ส.พรพรรณ หรือนกน้อย สาคร อายุ 39 ปี ได้หนีออกจากบ้านเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยทราบข่าวว่าได้กลับไปที่ จ.ระยอง อีกครั้ง หลังหน่วยงานในพื้นที่ จ.ระยอง ได้รับตัวไปรักษาอาการและส่งตัวกลับบ้านใน จ.ชลบุรี ช่วงเดือนที่ผ่านมา
แต่ นกน้อย หรือตัวตึงระยอง ไม่ยอมกินยาตามที่แพทย์จัดให้จนอาการกลับมากำเริบและมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น รวมทั้งยังหวาดระแวงคนในบ้านว่าจะขโมยเงินที่ตนเองได้เงินค่าจ้างจากการรีวิวสินค้า จำนวน 2,500 บาท และยังคิดไปเองว่าตนเองมีรายได้ถึงหลักแสนบาท และเกรงว่า ตัวตึงระยอง จะทำร้ายผู้อื่นนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (15 พ.ย.) น.ส.เรวดี จันทเปรมจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดระยอง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง ร่วมเดินทางลงพื้นที่บ้านเก้ายอด ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบ "ตัวตึงระยอง" กลับเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านร้างที่เคยอาศัยอยู่อีกครั้ง ซ้ำยังได้ก่อเหตุเผาขยะภายในบ้านจนลามไหม้สิ่งของ
โดยเมื่อไปถึงได้พบ "ตัวตึงระยอง" อาศัยอยู่ภายในบ้านร้างหลังดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงเข้าพูดคุย และแจ้งว่าจะนำตัวส่งกลับบ้านแม่ที่ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี แต่ ตัวตึงระยองกลับวิ่งหนีเข้าไปแอบภายในบ้าน
พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร และไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่เพราะถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน และยังอ้างว่าถูกแม่กล่าวหาว่ากลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำเช่นนั้น และขอที่จะอยู่ในบ้านร้างหลังดังกล่าวต่อไปเพราะอยู่มานานแล้ว
ทั้งนี้ ตัวตึงระยอง ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองสามารถดูแลตัวเองและหาเงินได้จึงไม่ต้องการที่จะไปไหนอีก
ขณะที่เจ้าของบ้านร้างที่ตัวตึงเข้าไปอาศัยซึ่งเป็นผู้หญิงสูงอายุ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองยินดีที่จะให้ ตัวตึง อาศัยอยู่ต่อไปแต่คงไม่สามารถดูแลได้เนื่องจากตนเองเดินไม่ค่อยสะดวก
ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่สมควรที่จะปล่อยให้ “นกน้อยตัวตึง” อยู่กับผู้สูงอายุรายดังกล่าวได้เนื่องจากเชื่อว่ายังมีอาการทางจิต จึงวางแผนเข้าจับตัวอย่างทุลักทุเลจนสามารถนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง เพื่อทำการรักษาให้หายขาดได้
น.ส.เรวดี จันทร์เปรมจิตร ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ระยอง เผยว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปล่อยให้นกน้อย หรือตัวตึงระยอง อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้เพราะบ้านที่เข้าไปอาศัยไม่ใช่บ้านญาติและเจ้าของบ้านยังอยู่ในสภาพไม่พร้อมดูแล นอกจากนี้ ยังเสี่ยงที่ นกน้อย หรือตัวตึงระยอง จะกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก จึงต้องพาตัวไปรักษาให้หายขาด และจะเร่งแจ้งไปยังครอบครัวให้ทราบต่อไป
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ปากน้ำระยอง ต่างพากันเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ที่นำตัว “ตัวตึงระยอง” ไปรักษา โดยเชื่อว่าบ้านร้างที่ถูกเผาเป็นฝีมือของตัวตึงระยอง เพราะก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นตัวตึงระยอง จุดไฟเผาขยะภายในบ้าน