นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” ระหว่างวันที่ 10 ต.ค.-8 พ.ย.65 สามารถยึดของกลางเป็นอาวุธปืนกว่า 1,000 กระบอก ยาบ้า 6 แสนเม็ด เฮโรอีน 6 กิโลกรัม พร้อมของกลางสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก
วันนี้ (10 พ.ย) ที่จังหวัดนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม บริเวณหน้าอาคารตำรวจภูธรภาค 7 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ด้วยปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมา การก่ออาชญากรรมมีลักษณะที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยมีการใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก ทั้งในคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายและเพศ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีการใช้อาวุธปืนในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จากการสืบสวนพบมีการลักลอบซื้อขายอาวุธปืนหรือสิ่งของผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก ซื้อขายปืนเถื่อน เป็นต้น ซึ่งเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีประเภทหนึ่ง
ซึ่งมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงให้เร่งรัดปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับให้เกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม-8 พฤศจิกายน 2565 โดยกำหนดเป้าหมายเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับตำรวจภูธรภาค 7
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ควบคุมการปฏิบัติ และสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด 8 จังหวัด และผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 รวมทั้งหัวหน้าสถานีตำรวจ ข้าราชการตำรวจทุกนาย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า มีการบูรณาการร่วมกับทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่รับผิดชอบ ปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยกำหนดเป้าหมายเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย (On Ground) และการจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนผ่านระบบออนไลน์และโซเชียลโดยผิดกฎหมาย (Online) ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด จับกุม 1,334 คดี ผู้ต้องหา 1336 คน ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด (On Ground) จับกุม 56 คดี ผู้ต้องหา 56 คน ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด (Online) จับกุม 17 คดี ผู้ต้องหา 17 คน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 7,430 คดี ผู้ต้องหา 7,415 คน จับกุมบุคคลตามหมายจับจับกุม 1,783 คดี ผู้ต้องหา 1,781 คนสรุปผลการจับกุมทั้งสิ้น 10,620 คดี ผู้ต้องหา 10,605 คน พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนธรรมดา 1,077 กระบอก อาวุธปืนสงคราม 2 กระบอก วัตถุระเบิด (ปิงปอง) 886 ลูก เครื่องกระสุนปืน 3,486 นัด ยาบ้า 638,627 เม็ดเฮโรอีน 6,989 กรัม ยาไอซ์ 6,492 กรัม ยาเค 1,427 กรัม ยาอี 417 เม็ด
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 7 ขอขอบคุณทุกภาคส่วน และพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตำรวจภูธรภาค 7 จะมุ่งมั่นทำงานตามวิสัยทัศน์ของ ผบช.ภ.7 ที่ว่า “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” โดยจะทำการปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด