พิจิตร - หลังโดนสั่งปิดมาร่วม 6 ปี..เหมืองทองอัคราฯ ขยับ ทุ่มงบ 500 ล้าน Overhaul เครื่องจักร-ซ่อมโรงงานใหม่ทั้งระบบ พร้อมประกาศรับสมัครพนักงานระดับปฏิบัติการแล้วล็อตแรก แค่ 3 วันคนแห่สมัครล้นเป็นพัน คาดปลายปีนี้ไม่เกินต้นปี 66 เดินเครื่องขุดทองได้
วันนี้ (10 พ.ย. 65) นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส หรือเหมืองทองอัครา ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินกิจการว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้ทุนมากถึง 500 ล้านบาทดำเนินการซ่อมแซมโรงงานครั้งใหญ่ MAJOR OVERHAUL เครื่องจักร รวมถึงอาคารสถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโรงงาน ตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อเป็นการเตรียมการเปิดดำเนินกิจการอีกรอบ
เนื่องจากโรงงานหยุดกิจการมาเกือบ 6 ปีแล้ว การซ่อมแซมเครื่องจักรต้องทำใหม่เกือบ 100% รวมถึงต้องซ่อมแซมหมดทั้งโรงงานและอาคารสถานที่
ขณะที่ฝ่ายบุคคลก็ได้ประกาศรับสมัครพนักงานใน 11 แผนก 166 อัตรา โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจมาขอรับใบสมัครได้ด้วยตนเองที่สำนักงานอัคราเพื่อชุมชน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 16 พ.ย. 65 (เว้นวันเสาร์-อาทิตย์) หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ที่บริษัทอัคราได้ประกาศอย่างเปิดเผย
โดยคุณสมบัติหลักๆ ของผู้สมัครมี 4 ข้อเท่านั้น คือ 1. เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ 2. มีทัศนคติที่ดีต่อการทำเหมืองแร่ 3. ถ้าเป็นคนในพื้นที่จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ 4. ต้องเป็นผู้ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งช่วง 3 วันที่ผ่านมามีผู้สนใจมาขอรับใบสมัครมากกว่า 1 พันรายแล้ว
ส่วนกำหนดการเดินเครื่องอย่างเป็นทางการนั้นยังไม่สามารถกำหนดวัน-เวลา ได้ในขณะนี้ ต้องขอให้การซ่อมแซมดำเนินการให้เสร็จตามแผนงานก่อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 65 จากนั้นก็ต้องแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เพื่อขออนุญาตดำเนินการตามระเบียบราชการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อถึงช่วงนั้นฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็จะแจ้งให้พนักงานที่สมัครและคัดเลือกไว้ได้เตรียมตัวเข้าทำงานต่อไป ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นก็จะระบุวัน Kick Off ของเหมืองทองอัคราให้สาธารณชนรับรู้ รับทราบต่อไป
นายวรงค์กล่าวด้วยว่า ถ้าเหมืองทองอัคราเปิดดำเนินกิจการก็ต้องมีคนงานนับร้อยคน ซึ่งก็จะส่งผลให้มีเงินเดือน ให้มีรายรับ และเงินเหล่านี้ก็จะมาจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ในชุมชน ซึ่งคาดว่าในช่วงแรกเม็ดเงินจะสะพัดไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท/เดือน และเม็ดเงินจะสะพัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามตำแหน่งพนักงานที่ต้องรับเพิ่มขึ้นในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ร้านรวงในพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก จ.พิจิตร และ ต.ท้ายดง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเหมืองทองอัครา เริ่มกลับมาคึกคัก หลังจากเงียบเหงาซบเซามาตลอดเกือบ 6 ปีนับตั้งแต่เหมืองทองอัคราฯ หยุดการเดินเครื่อง หอพักบ้านเช่าก็เริ่มปรับปรุงพร้อมเปิดให้เช่ารวมถึงช่วงนี้ก็มีช่างฝ่ายซ่อมบำรุงโรงงานนับร้อยคนเข้ามาทำงานเข้ามาอยู่ในพื้นที่