วันนี้(8 พ.ย.)นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา-บางคอแหลม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ภายหลังมีเหตุเพลิงไหม้ในช่วงเย็นของ วันที่ 6 พ.ย.65 บริเวณข้างวัดเรืองยศสุทธาราม เขตบางคอแหลม ซึ่งจุดที่มีบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลังคาเรือน ตนได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความเสียหายและรับฟังปัญหา พบว่า ต้นเพลิงมาจากบ้านพักอาศัยซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เสียหายหมดทั้งหลัง และลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงจนเสียหายทั้งหลังเช่นกัน โดยทั้งสองหลังนั้นเป็นบ้านเช่าที่มีผู้เช่าอยู่อาศัยถึง 13 ครอบครัว เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุเพลิงไหม้ว่าเกิดจาก แก๊สหุงต้มรั่วไหล มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย แต่ปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ดี อุทธาหรณ์จากกรณีนี้ที่อยากเรียกร้องไปยังผู้เกี่ยวข้องคือ ระบบแจ้งเตือนภัยของชุมชนเมืองที่ไม่พร้อม เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น คนในพื้นที่เกิดเหตุกล่าวตรงกันว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ ซึ่งกรณีนี้ถือว่าโชคดีที่เหตุการณ์สามารถควบคุมได้เร็วเนื่องจากมีหัวแดงดับเพลิงอยู่ไม่ไกล จึงไม่มีเหตุสูญเสียชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะโชคดีแบบนี้เสมอไป พื้นที่ชุมชนเมืองแบบกรุงเทพ มีความแออัดสูง หากเกิดแล้วสามารถลุกลามบานปลายได้เร็ว หากไม่มีระบบแจ้งเตือนภัยและแผนรับมือเหตุฉุกเฉินที่ดี ความสูญเสียร้ายแรงก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
“คงไม่มีเมืองใดอยากให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นเหมือนกรณีอิแทวอน ดังนั้น เราจะต้องมีการเตรียมความพร้อมที่ดี มีแผนรับมือที่เหมาะสมในการรับมือภัยพิบัติเมืองแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ น้ำท่วม สารเคมีรั่ว หรืออื่นๆ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่เร็วเมื่อเกิดเหตุถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรมีการเตือนภัยทั้งแบบผ่าน sms และระบบเตือนภัยในชุมชนพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำได้ อย่างน้อยเพื่อให้คนในพื้นที่ได้รู้ตัวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อปฏิบัติตัวได้ถูกในขั้นต่อไป ว่าควรหนีทันที หรือมีเวลาเตรียมการอื่นๆ หนีไปทางไหน รู้เส้นทางอพยพหนีภัยในชุมชน รวมถึงรู้จุดที่ติดตั้งอุปกรณ์ระงับเหตุเบื้องต้นและมีทักษะในการใช้ ไม่ว่าถังดับเพลิงหรือหัวฉีดน้ำต้องไม่มีสิ่งใดกีดขวาง เพื่อให้เวลามีเหตุสามารถพร้อมใช้ได้ความปลอดภัยของเมืองเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ทุกชุมชนควรมีระบบเตือนภัยที่ดีและซ้อมรับเหตุอยู่เสมอ รวมถึงการสอนในโรงเรียน ผมคิดว่าเราควรจริงจังและลงทุนในเรื่องนี้ได้แล้ว” นายจรยุทธ ระบุ