เพชรบุรี - พี่เขยโหดมีปากเสียงกับน้องเมีย ใช้หม้ออบวุ้นเส้นตีหัวน้องเมียดับคาบ้าน เจ้าหน้าที่ติดตามจับตัวได้ ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพราะโกรธที่ถูกกล่าวหาว่าไปขโมยของมา
ค่ำวันนี้ (7 พ.ค.) ร.ต.อ.สายยนต์ ขึ้นนกคุ้ม รอง สว.สอบาสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกตีเสียชีวิตภายในบ้านพัก เลขที่ 4 ภายในชุมชนหมู่บ้านชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทรน์ ผกก.สภ.ชะอำ ทราบ ก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ชะอำ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี กู้ภัยสว่างสรรเพชญ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ในสภาพสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณบันไดบ้าน ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกชกเข้าที่ใบหน้า เบ้าตาซ้ายจนเขียวช้ำ พบบาดแผลถูกของแข็งตีเข้าที่หลังศีรษะจนแตกมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เสียชีวิตมาแล้วกว่า 14 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุวิทย์ แก้วศิรัตน์ อายุ 46 ปี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคราบเลือดตกอยู่บริเวณพื้นหน้าบ้าน ภายในบ้าน ห้องน้ำจำนวนมาก ห้องครัวพบหม้ออบวุ้นเส้น 1 ใบ ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ได้สืบสวนสอบสวนจนสามารถควบคุมตัว นายชานนท์ กลิ่นอุบล อายุ 42 ปี พี่เขยผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้หม้ออบวุ้นเส้นตีหัวผู้เสียชีวิตจนเสียชีวิตคาบ้านพักได้ภายในที่เกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ชะอำ
น.ส.สุธี แก้วศิรัตน์ พี่สาวของผู้เสียชีวิต และเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแฟนของตน ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นน้องชายตน ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุมีอาการจิตเวช และติดสุราอย่างหนัก ตนเคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นแล้ว จากนั้นพอกลับมาอยู่บ้าน ผู้เสียชีวิตมีอาการติดเหล้าอย่างหนัก เวลาเมาจะมาหาเรื่องด่าทอต่อว่าและทะเลาะวิวาทกับผู้ก่อเหตุและคนในบ้านเป็นประจำ ตนจึงต่อว่าต่างคนต่างอยู่จะมาทะเลาะทำไมกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งตำรวจแต่ตำรวจมาถึงก็จับไปขัง วันครึ่งวันก็ปล่อยตัวกลับมาอีกจนมาเกิดเหตุ
เบื้องต้น นายชานนท์ กลิ่นอุบล พี่เขยและผู้ลงมือก่อเหตุรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงเนื่องจากผู้เสียชีวิตได้มาด่าทอตนว่าไปขโมยของมา ตนจึงทนไม่ไหวจึงลงมือก่อเหตุ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเย็นวันนี้ญาติมาพบผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายชานนท์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวดำเนินดำคดีตามกฎหมายต่อไป